นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวปรายศรัยในงานทอดกฐินสามัคคี ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่าถึงแม้ตนเองจะวางมือทางการเมืองมานานแล้ว แต่ก็ยังสนใจและติดตามปัญหาของบ้านเมืองมาโดยตลอด
ซึ่งขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองของเรานั้นมีปัญหามากมายเกิดขึ้นในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาโรคระบาด ที่ไทยเองก็จัดการได้เป็นอย่างดี ไม่พบผู้ติดเชื้อ แต่สถานการณ์รอบบ้านเรายังคงไม่น่าไว้วางใจ ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ปัจจุบันไทยเราต้องพึ่งรายได้จากต่างประเทศสูงมาก ทั้งในด้านการส่งออก การท่องเที่ยว เมื่อเกิดโรคระบาดการท่องเที่ยวก็ลดลง ถึงแม้รัฐบาลจะมีโครงการนำร่องการท่องเที่ยว แต่ก็นักท่องเที่ยวก็ยังมีสัดส่วนน้อยมาก
ปัญหาทางการเมือง ที่ยังคงมีการชุมนุมเคลื่อนไหว มีความแตกแยกทางความคิด เราไม่สามารถจะปฏิเสธคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดเป็นของตนเอง มีความแตกต่างจากคนรุ่นเก่าที่เคยคิดกันในอดีต สิ่งที่ดีที่สุดคือรัฐบาลควรต้องอดทนรับฟังความคิดเห็น และพร้อมจะแก้ไขปัญหาเพื่อให้เบ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้
ในวันเดียวกันนายอภิสิทธิ์ยังกล่าวปรายศัยแก่สมาชิกพรรค ปปช. ว่าการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ เชื่อว่านักศึกษามีความคิดเป็นของตนเอง รู้เรื่องบ้านเมือง อยากจะเปลี่ยนแปลง สิ่งที่พวกเขาเรียกร้อง ถ้าเราคิดแต่จะห้ามแล้วไปกดไว้ เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะกลับมาอีก ไม่จบ ตนจึงย้ำตลอดว่าการรับฟังแล้วหาแนวทางแก้เป็นทางออกที่มีเหตุมีผล ดึงพวกเขาเข้ามามีส่วนร่วมทำด้วยกัน ไม่ใช่มาปลุกระดม สร้างความเกลียดชัง ความขัดแย้ง ความรุนแรง
