เครื่องฟอกอากาศ หลักพิจารณาก่อนเลือกซื้อแต่ละยี่ห้อ

13297

เครื่องฟอกอากาศ … เสียเงินทั้งที่ต้องเลือกให้เป็น เนื่องจากมลภาวะทางอากาศไม่ค่อยดี  จะให้นั่งทนหายใจเอาสารพิษ เชื้อโรคต่างๆ เข้าร่างกายตลอดเวลาได้อย่างไร คงต้องหาตัวช่วยที่ทำให้อากาศมันบริสุทธิ์ขึ้น

เครื่องฟอกอากาศ

เครื่องฟอกอากาศเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่ต้องการมีอากาศหายใจที่สะอาดและสำหรับคนรักสุขภาพ เครื่องฟอกอากาศก็เหมือนปอดที่อยู่ข้างนอกร่างกายจะค่อยกรองเอาฝุ่นละออง ขนสัตว์ เชื้อโรคไว้ที่แผ่นกรอง และยังช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย

เทคโนโลยี เครื่องฟอกอากาศ ที่มีขายในปัจจุบัน

ปัจจุบันเครื่องฟอกอากาศมีอยู่ 2 เทคโนโลยีที่ขายในอยู่ในท้องตลาด คือ

  • แบบดูดสิ่งสกปรกเข้ามากรองผ่านแผ่นกรอง โดยใช้แผ่นกรองที่ประสิทธิภาพสูงสามารถดักอนุภาคที่เล็กได้ถึง 0.01ไมครอน ซึ่งจะช่วยดักเชื้อแบคทีเรียที่ลอยมากกับอากาศ ซึ่งเครื่องฟอกอากาศที่สามารถดักจับอนุภาคที่เล็กมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งกินไฟมากเท่านั้นเพราะต้องใช้แรงดูดมาก และอากาศจะผ่านเข้าสู่ส่วนดักกลิ่น ที่สามารถกรองกลิ่นต่างๆได้
  • แบบการปล่อยประจุไฟฟ้า ดึงดูให้ฝุ่นละอองตกลงสู่พื้นเร็วขึ้น ไม่ล่องรอยอยู่ในอากาศและสามารถฆ่าเชื้อโรคในอากาศบางชนิดได้ด้วย

การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ

การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศเราจำเป็นต้องมีข้อพิจารณาอีกหลายจุดคะ เช่น

  • ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศ ดูได้จากค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) เป็นตัวเลขที่ได้จากการวัดปริมาณอากาศทั้งหมดที่ระบบฟอกอากาศสามารถทำความสะอาดอากาศที่ปนเปื้อนสิ่งสกปรกที่เฉพาะเจาะจงอย่างใดอย่างหนึ่งได้ในระยะเวลา 1 นาที  ค่าCADR จะได้รับการทดสอบโดยหน่วยงาน AHAMและค่านี้ยังเป็นค่ามาตราฐานกลางที่รับรองโดยหน่วยงานด้านการปกป้องสิ่งแวดล้อมและสถาบันสุขภาพปอดแห่งสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ค่าของCADRจะระบุเป็นหน่วยลูกบาศก์ฟุตต่อวินาที (CFM) มีค่าอยู่ 3 ค่า คือ ค่าที่1 แสดงอัตราการทำความสะอาดอากาศที่ปนเปื้อนควันบุหรี่ ค่าที่ 2 แสดงอากาศที่มีฝุ่นละออง และค่าที่ 3 แสดงอากาศที่ปนเปื้อนละอองเกสรดอกไม้  ค่าทั้ง 3 ค่าไม่ควรต่ำกว่า 125 และหากค่ายิ่งสูงก็ยิ่งดี แสดงว่ามีประสิทธิภาพในการกรองได้ดี
  • อากาศที่ผ่านเข้าเครื่องฟอกอากาศ (Air volume/air flow) แสดงค่าอากาศที่ผ่านเข้า-ออกเครื่องฟอกอากาศในช่วงเวลาหนึ่ง หากเครื่องฟอกอากาศนั้นสามารถดูดอากาศเข้ามาฟอกได้ในปริมาณที่มากและเร็ว อากาศในห้องก็จะยิ่งสะอาดเร็วขึ้น ไม่ต้องเสียเวลานั่งรอให้อากาศสะอาดเป็นชั่วโมง
  • ขนาดของเครื่องฟอกอากาศ (Area Coverage) การเลือกเครื่องฟอกอากาศให้มีขนาดเหมาะสมกับห้องที่นำไปติดตั้ง ควรสอบถามปริมาณลม (หน่วยลูกบาศก์/นาที) แล้วเปรียบเทียบกับขนาดของห้อง(หน่วยตารางฟุตหรือตารางเมตร) ถ้าปริมาณลมน้อยแต่ขนาดห้องใหญ่ ความสามารถในการกรองอากาศให้ครอบคลุมพื้นที่จะไม่ทั่วถึง
  • เสียง เนื่องจากเราจำเป็นต้องเปิดเครื่องฟอกอากาสไว้ในเวลานาน และคนส่วนใหญ่จะนำไปใช้ในห้องนอนขณะนอนหลับ หากเครื่องฟอกอากาศมีเสียงดังรบกวนการนอนก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพเสียมากกว่าคะ
  • อัตราการเปลี่ยนถ่ายอากาศสะอาดให้ห้องภายใน 1 ชั่วโมง (Air changes /hour)หากบนฉลากเครื่องฟอกอากาศระบุไว้ที่ 6 หมายความว่า อากาศในห้องจะถูกเปลี่ยนให้เป็นอากาศที่สะอาดถึง 6 รอบต่อชั่วโมง
  • บริการหลังการขาย เนื่องจากเครื่องฟอกอากาศจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนอะไหล่ เช่น แผ่นกรองอากาศ ทุกๆ 3-6 เดือนแล้วแต่สภาพอากาศของบ้าน หากอยู่ใกล้ถนนอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยขึ้น เราควรสอบถามบริการหลังการขาย ว่าสามารถหาซื้ออะไหล่ได้ง่ายหรือไม่ ราคาประมาณเท่าไหร่ และบริษัทมีการบริการแบบไหน เครื่องฟอกอากาศราคาต่ำไม่ได้แสดงว่าคุณซื้อสินค้าได้คุ้มค่านะคะ หากอะไหล่หายาก ราคาก็แพง ถ้ามีอะไรขัดข้องต้องเดินทางไปที่สำนักงานเอง อย่างนี้คงจะไม่เป็นการสะดวกสำหรับผู้บริโภค อาจจะต้องพิจารณายี่ห้ออื่นๆดีกว่าคะ

เลือกเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี

ปัจจุบันเครื่องฟอกอากาศมีว่างจำหน่ายอยู่หลายยี่ห้อ และหลายการทำงานมากขึ้น อาทิ ยี่ห้อ Hatari, ยี่ห้อ Mitsubishi, ยี่ห้อ Sharp หรือแม้แต่ Amways กับ Rainbow แต่ละยี่ห้อก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน วันหลังเราจะมาเปรียบเทียบกันอีกครั้งค่ะ ว่าแต่ละยี่ห้อมีจุดเด่น จุดด้อยอย่างไร

สำหรับท่านที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศไว้ใช้สักเครื่องก็ลองนำข้อแนะนำไปพิจารณาในการซื้อเครื่องฟอกอากาศดูนะคะ…

ข้อมูลอ้างอิง
เลือกเครื่องฟอกอากาศไม่ยากอย่างที่คิด : daddylittlethings.com
สามปัจจัยในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ : gotoknow.org
เครื่องฟอกอากาศมีประโยชน์อย่างไร : vollarathai.com
อยากซื้อเครื่องฟอกอากาศให้ลูกสาว ยี่ห้อไหนดีคะ : pantip.com

Previous articleสมุนไพรรักษามะเร็ง หายได้โดยไม่ต้องใช้รังสีหรือเคมีบำบัด
Next articleเครื่องสำอางค์เกาหลี เหตุผลที่ฮิต มีประโยชน์ดีอย่างไร?