รู้จักเชื้อ โนโรไวรัส (Norovirus) เชื้อท้องเสียในเด็กเล็ก

20

วันนี้เรามาทำความรู้จักกับเชื้อโนโรไวรัส (Norovirus)”  ที่กำลังแพร่ระบาดในเด็กเล็ก ที่ทำให้ช่วงนี้เด็กไม่สบาย มีอาการท้องเสีย อาเจียน และยังสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายและรวดเร็ว

เชื้อโนโรไวรัส (Norovirus) เดิมเชื้อนี้มีชื่อว่า “Norwalk virus”เป็นการติดเชื้อท้องเสียที่ไม่ใช่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โนโรไวรัส เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร ระบาดได้ง่ายและรวดเร็วแม้ร่างกายได้รับเชื้อในปริมาณเพียงเล็กน้อย เป็นเชื้อที่ทนต่อความร้อนและน้ำยาฆ่าเชื้อต่างๆ ได้ดี สำหรับเด็กเล็กควรระวังอย่างยิ่งเมื่อมีภูมิต้านทานต่ำอาการอาจหนักและอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ 

อาการที่พบบ่อย เมื่อติดเชื้อโนโรไวรัส จะอาการคลื่นไส้ อาเจียน ที่ค่อนข้างรุนแรง ถ่ายเหลวเป็นน้ำ ปวดท้อง ปวดศีรษะ มีไข้ต่ำร่วมด้วย แต่เด็กบางรายอาจมีไข้สูง 38-39 องศาเซลเซียสได้ มีอาการอ่อนเพลียและปวดเมื่อยตามตัว สำหรับรายที่มีอาการอาเจียนและถ่ายเป็นน้ำรุนแรงอาจทำให้ผู้ป่วยมีภาวะขาดน้ำ เช่น มีไข้ อ่อนเพลียมาก ชีพจรเบาเร็วและมีความดันโลหิตต่ำ  

การวินิจฉัยโรค ทางแพทย์ทำการเก็บ ตัวอย่างอุจจาระส่งตรวจพิเศษทางห้องปฏิบัติการ (เป็นการตรวจด้วยแลปพิเศษ, ไม่ใช่เป็นการเพาะเชื้อไวรัส) นอกจากนี้ยังพิจารณาจากอาการคลื่นไส้อาเจียนที่รุนแรงแต่จะไม่พบอาการปวดเฉพาะที่หรือปวดเกร็งของหน้าท้อง ทำให้สามารถแยกโรคออกจากโรคที่มีภาวะคล้ายคลึงกัน 

การรักษา ในปัจจุบันยังไม่มียาเฉพาะเจาะจงในการขจัดเชื้อไวรัสนี้ การรักษาจึงเป็นการดูแลตามอาการ และส่วนใหญ่อาการต่างๆจะดีขึ้นใน 3-4 วัน ในกรณีที่มีอาเจียนและท้องเสีย จะให้ทานอาหารอ่อน และ ให้ยาแก้อาเจียน ยาแก้ปวดท้อง ส่วนเด็กที่มีภาวะขาดน้ำค่อนข้างมากหรืออาเจียน ถ่ายตลอด ทางแพทย์จะให้น้ำเกลือทางหลอดเลือด และติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เพื่อปกป้องอาการช็อค ความดันโลหิตต่ำและเสียชีวิต 

การติดต่อและแพร่กระจาย มักพบการปนเปื้อนในอาหาร และน้ำดื่ม การสัมผัสผู้ป่วยที่ติดเชื้อโดยตรง หรือสิ่งของที่มีเชื้อไวรัส เช่น ของเล่น หรือสิ่งที่เด็กหยิบเข้าปาก และยังติดต่อกันผ่านทางลมหายใจ เช่นการหายใจร่วมกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโนโรไวรัส 

การป้องการ เนื่องจากยังไม่มีวัคซีนป้องกัน เชื้อโนโรไวรัสนี้ การป้องกันโดยทั่วไป คือ การใส่ใจในสุขอนามัย กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ จะช่วยลดปัญหาการติดเชื้อนี้ได้  

เชื้อโรโนไวรัสเป็นเชื้อที่ติดต่อกันง่าย อีกทั้งเด็กยังเป็นวัยที่ขาดความระมัดระวังจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะรับเชื้อมา คุณพ่อคุณแม่จึงควรหมั่นดูแลความสะอาดของเจ้าตัวเล็ก ไม่ว่าจะเป็นของเล่น สถานที่ รวมถึงอาหารการกิน หากพบว่ามีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ทันที  

Previous article“แอ็ด คาราบาว” โว้ย ไม่ชอบธรรม ย้ายอุเทนฯ
Next articleเลือกหมอข้อและกระดูกเก่ง รักษาหายไว คุณภาพชีวิตดีขึ้น