หลังจากที่ในภาคแรก Twilight เมื่อปี 2008 ค่อนข้างประสบความสำเร็จและได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากแฟนนิยายและคอหนัง โดยเฉพาะสาว ๆ ส่งผลให้ภาคสอง หรือ The Twilight Saga : New Moon ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
The Twilight Saga : New Moon (2009) หรือในชื่อไทยว่า “ แวมไพร์ ทไวไลท์ 2 นิวมูน ” (เวอร์ชันหนังสือแปลไทยใช้ชื่องาม ๆ ว่า นวจันทรา ส่วนเล่มหนึ่งคือ แรกรัตติกาล) เล่าถึงเรื่องราวที่เริ่มต้นในงานวันเกิดครบรอบ 18 ปีของ เบลลา ที่มี เอ็ดเวิร์ด และครอบครัวคัลเลน ได้จัดเซอร์ไพรส์ปาร์ตีให้กับเธอ
แต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์อุบัติเหตุในงานดังกล่าวเกือบทำให้เบลลาต้องถูกทำร้ายเพราะเธอเสียเลือด และ แจสเปอร์ แวมไพร์ในครอบครัวของเอ็ดเวิร์ด ก็ไม่สามารถทนกลิ่นคาวเลือดนี้ได้
แต่เมื่อเรื่องทุกอย่างได้คลี่คลายลง เอ็ดเวิร์ดจึงตัดสินใจที่จะปกป้องผู้หญิงที่เขารักด้วยการหนีจากเธอไปให้ไกลที่สุด เพราะเขาเชื่อว่า มนุษย์กับแวมไพร์ไม่สามารถที่จะรักกันได้ และเพื่อความปลอดภัยของคนที่เขารัก เขาควรจะไม่มีตัวตน
แต่นั่นกลับกลายเป็นเบลลาได้ออกตามหาตัวเขา และดูเหมือนว่าทุกครั้งที่เธอพยายามทำอะไรเสี่ยง ๆ เอ็ดเวิร์ดก็จะปรากฏเป็นความรู้สึกเข้ามาช่วยเธอตลอด
แต่จากเหตุการณ์ที่เบลลาได้กระโดดหน้าผาและดูเหมือนจะเสียชีวิต ทำให้เอ็ดเวิร์ดที่ได้รับทราบเรื่องนี้ทนไม่ไหว เขาต้องเดินทางไปที่อิตาลีเพื่อปลิดชีพตัวเองจากกลุ่มแวมไพร์ผู้คุมกฎที่สามารถประหารพวกเดียวกันได้ นั่นทำให้เบลลาต้องทำทุกอย่างเพื่อยุติเรื่องราวดังกล่าว
สำหรับคำวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่อง The Twilight Saga : New Moon ในแง่บวก หนังตอบโจทย์กลุ่มคนดูที่ชอบในนิยาย รวมไปถึงเหล่าสาว ๆ ที่ชอบในเรื่องแนวนี้ได้ดี และหนังได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความรักระหว่างมนุษย์กับแวมไพร์ที่สุดท้ายแล้ว ความรักไม่มีอะไรขวางกั้นได้
ในแง่ลบ แน่นอนว่าผู้ชมที่ต้องการชมภาพยนตร์ที่มีตรรกะและความคิด อาจจะไม่ถูกใจกับหนังเรื่องนี้มากนักเพราะเป็นหนังที่ปล่อยตามอารมณ์ และดูจะเป็นเรื่องเพ้อฝันในหลายช่วงเป็นอย่างมาก
