The Dark Knight (2008) ภาคในไตรภาคที่สมบูรณ์แบบของ โนแลน

217

โนแลน

หลังจากที่เมื่อปี 2005 Batman Begins หนังเปิดไตรภาคมนุษย์ค้างคาวของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และการกลับมาของฮีโรรัตติกาลในภาคที่ 2 อีกสามปีต่อมาอย่าง The Dark Knight คือความคาดหวังที่สูงขึ้นแต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ

The Dark Knight (2008) หรือ “ แบทแมน อัศวินรัตติกาล ” เล่าถึงเรื่องราวต่อจากภาคแรกหลังจากที่มนุษย์ค้างคาวร่วมมือกับสารวัตร เจมส์ กอร์ดอน ได้ออกกวาดล้างเหล่าร้ายในเมืองก๊อตแธม จนทำให้เขาได้กลายเป็นฮีโรของเมือง แต่ถึงกระนั้นก็มีกลุ่มคนที่ไม่พอใจในตัวเขาเช่นกันเพราะคิดว่าเขาคือศาลเตี้ย

แต่ต่อมาในเมืองก๊อตแธมได้เกิดฮีโรคนใหม่ที่ชื่อว่า ฮาร์วีย์ เดนท์ อัยการหนุ่มไฟแรง ที่ไม่เคยเกรงกลัวต่อผู้ใด และเขาพร้อมที่จะรับบทเป็นอัศวินม้าขาวซึ่งตรงข้ามกับแบทแมนคืออัศวินรัตติกาล

แต่ก็ดูเหมือนว่า พวกเขาจะต้องรับมือกับวายร้ายรายใหม่ที่มีความฉลาดและซับซ้อนยากที่จะจับทางได้อย่าง โจ๊กเกอร์ ที่วายร้ายรายนี้ได้วางแผนทำลายเมืองก๊อตแธมพร้อมกับปั่นหัวเหล่าฮีโรที่คุ้มครองเมืองนี้ให้แตกแยกอย่างละเอียดเละเทะ และดูเหมือนว่าการต่อสู้ครั้งใหม่ของแบทแมนนี้จะเป็นการต่อสู้ที่ยากที่สุดครั้งหนึ่งของเขา

สำหรับคำวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่อง The Dark Knight ในแง่บวก นี่คือหนึ่งในหนัง Batman ที่สมบูรณ์แบบมาก ๆ ในหลายเรื่อง หนังมีทุก ๆ อารมณ์ การต่อสู้ ความยุติธรรม ความรัก และเหตุผลของทุกตัวละคร การซ่อนเงื่อนในปริศนาต่าง ๆ รวมถึงการพลิกบทกลับไปมา การที่ทำให้เห็นถึงสัจธรรมที่ว่าไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิต ซึ่งเราได้เห็นคนที่ดีที่สุดกลายเป็นคนที่เลวที่สุดก็เป็นไปได้

ในแง่ลบ หนังมีความตึงเครียดค่อนข้างสูง และมีความยาวที่สามารถสะกดคนดูได้ อาจจะไม่เหมาะสำหรับบุคคลบางวัยในการรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมไปถึงความกดดันที่ถาโถมเข้ามาในหลายฉากซึ่งผู้ชมควรจะเป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะในระดับหนึ่ง

Previous articleMesa Boogie ตู้แอมป์ดังระดับโลก ย้ายซบค่าย Gibson เป็นที่เรียบร้อย
Next articleTransformers 3 (2011) หยิบโยงประวัติศาสตร์เข้ากับหนังสู้รบหุ่นยนต์