อดีตนักแสดง “จิลล์” จักรพงศ์ ที่ตอนนี้ผันตัวมาทำธุรกิจเครื่องสำอางค์ และกลายเป็นผู้รู้ในสำหรับวงการความเชื่อ กุมารทอง ปั้นเหน่ง หนังหน้าครู
ล่าสุด “จิลล์ จักพงศ์” เผยถึงการเข้ามาในเส้นทางสายมูว่า จริงๆ แล้วผมเนี่ยศึกษาด้าน พระเครื่อง มาก่อนก็เหมือนกับใครหลายๆ คนแหละครับ เพราะว่าเรามีของคุณพ่อคุณแม่ ปู่ย่ามา แต่พอเรามาศึกษาเรื่อยๆ เรามาทำด้านคอสเมติก คือ ค้าขายในด้านของเครื่องสำอางค์ เรามานั่งคิดว่าเครื่องรางอะไร ที่จะตอบโจทย์เรามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพราย แม่นางกวัก จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ กุมารทองที่บ้านเราก็มี เป็นของโบราณที่คุณตาคุณยายมี ก็เลยเอาจากคุณตาคุณยายมาบูชาเริ่มจากตรงนั้น
เริ่มจากการบูชาไปเรื่อยๆ จนเราไปเห็นเครื่องรางอื่นๆ นอกจาก กุมารทอง พอกุมารทองเขาบูชากันมาเป็นพัน ๆ องค์ ทีวีเข้ามาถ่ายหลายช่องเรียกว่าทุกช่อง สื่อสมัยโบราณเข้ามาถ่ายปุ๊บ เอ๊ะ..ไม่ได้มีแค่กุมารทองอย่างเดียว มันมีเครื่องรางอื่นๆ ที่เราไม่เคยเห็น ที่เราไม่เคยสัมผัส และมันก็มีสายพรายเกิดขึ้น จากนักร้องมาเป็นนักขายเป็นนักธุรกิจด้านคอสเมติก
ก็เริ่มเปลี่ยนมาเป็นด้านผู้เชี่ยวชาญ ต้องบอกก่อนว่าเขาให้กันนะ คำว่า ผู้เชี่ยวชาญ กูรูทางด้านเครื่องรางของขลังด้านสายพราย จริงๆ ผมก็กูรูได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นตะกรุด หรือ เครื่องรางต่างๆ แต่ว่ามันเป็นแพทเทิร์นเดิมๆ เขาเล่ากันว่า จนมารู้สึกว่าเครื่องรางสายพรายมันมีความตื่นเต้นมากกว่า เช่น ปั้นเหน่ง น้ำมันพราย เราศึกษาจริง ลงพื้นที่จริง แต่ส่วนตัวชอบมากที่สุดคือเครื่องรางสายเสน่ห์
