การเลือกเครื่องกรองน้ำ .. ต้องเลือกอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด

1789

คุณทราบไหมว่าน้ำประปาที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้มีส่วนผสมของคลอรีนซึ่งทำหน้าที่ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตและการส่งน้ำมาตามท่อประปา หากเรานำน้ำประปารองเก็บไว้สัก 1-2 วัน กลิ่นคลอรีนก็จะหายไป แต่เราคงไม่อยากรอใช่ไหมคะ “เครื่องกรองน้ำ” จึงเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับช่วยกรองน้ำให้สะอาด บริสุทธิ์ และปราศจากเชื้อโรค ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการบริโภคน้ำได้เป็นอย่างดี ในท้องตลาดมีเครื่องกรองน้ำจำหน่ายอยู่หลากหลายรูปแบบ แล้วแบบไหนจะเหมาะกับเรา วันนี้เรามีวิธี การเลือกเครื่องกรองน้ำ มาฝากกันคะ

การเลือกเครื่องกรองน้ำ
รูปภาพจาก amazon.com

เครื่องกรองน้ำสามารถแบ่งหลักใหญ่ได้ 3 ประเภท คือ

1.เครื่องกรองน้ำแบบ อาร์โอ (Reverse Osmosis) เป็นเครื่องกรองน้ำที่มีระดับการกรองที่ 0.0001 ไมครอน สามารถกรองสิ่งปนเปื้อนได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็กรองเอาแร่ธาตุที่จำเป็นออกไปด้วย จุดเด่นอีกอย่างของระบบกรองน้ำอาร์โอคือ สามารถกรองน้ำบาดาลได้คะ เนื่องการเป็นการกรองที่ค่อนข้างละเอียดจึงทำให้มีการเสียน้ำไปในระหว่างกระบวนการกรองถึง 40-70 เปอร์เซ็นต ระบบการทำงานของเครื่องกรองน้ำอาร์โอนั้น คือการอาศัยปั้มน้ำดึงน้ำจากแทงก์เก็บน้ำแล้วดันน้ำให้ไหลผ่านตัวกรอง แล้วส่งต่อออกมายังก๊อกน้ำ ด้วยขั้นตอนการกรองน้ำรวมกับอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้เครื่องกรองน้ำแบบนี้มีราคาค่อนข้างสูง

2.เครื่องกรองน้ำแบบ ยูวี (Ultra Violet) เป็นระบบเครื่องกรองน้ำที่ใช้แสงอัลตราไวโอเลตหรือแสงยูวีเป็นตัวฆ่าหรือหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่อยู่ในน้ำ

3.เครื่องกรองน้ำแบบ ยูเอฟ (Ultra-filtration) มีประสิทธิภาพในการกรองสิ่งเจือปนขนาด 0.01 ไมครอน ได้ และยังคงแร่ธาตุในน้ำไว้คงเดิม เครื่องกรองแบบระบบนี้จะมีไส้กรอง และไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าสามารถต่อกับก๊อกน้ำได้โดยตรง ไม่มีการสูญเสียน้ำระหว่างที่กรองน้ำอีกด้วย เครื่องกรองน้ำระบบนี้ถูกพัฒนามาจากระบบกรองน้ำแบบยูวี สามารถดูแลรักษาได้ง่ายและประหยัดกว่าระบบอื่น

หลักการเลือกเครื่องกรองน้ำนั้นไม่ยุ่งยาก เริ่มจาก

1.เลือกระบบเครื่องกรองน้ำ ระบบของเครื่องกรองน้ำนั้น เป็นสิ่งที่เราต้องนำมาพิจารณาก่อนการเลือกซื้อเพราะเป็นสิ่งที่แสดงให้ผู้บริโภคอย่างเราๆทราบว่า เครื่องกรองน้ำแต่ละประเภทสามารถขจัดสิ่งปนเปื้อนำที่ไม่พึงประสงค์ อย่าง ตะกอนแขวนลอย สี กลิ่น รสชาติ รวมทั้งจุลินทรีย์ ได้มากน้อยเพียงใด เราจึงไม่จำเป็นต้องเสียเงินมากเกินความจำเป็นกับเครื่องกรองน้ำจากต่างประเทศ หรือเทคโนโลยีล้ำคะ

2.ขนาดของเครื่องกรองน้ำก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพราะหากคุณไม่ได้ใช้บ่อยนักแล้วเลือกเครื่องกรองน้ำขนาดใหญ่ก็จะทำให้สิ้นเปลืองทั้งน้ำ ไฟ และค่าอุปกรณ์บำรุงรักษา

3.บริการหลังการขาย เนื่องจากอุปกรณ์อย่างไส้กรองจำเป็นต้องเปลี่ยนเมื่อครบอายุการใช้งาน หรือแม้แต่การซ่อมบำรุงเครื่องกรองน้ำก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวล ด้วยเหตุนี้การมีศูนย์บริการหรืออุปกรณ์คอยรองรับผู้ใช้งานจึงมีความจำเป็น ไม่ใช่ว่าต้องรอนำเข้าอุปกรณ์สัก 1-2 เดือน คงจะไม่ดีแน่ๆคะ

4.ราคา ถือว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่เป็นตัวตัดสินว่าจะซื้อเครื่องกรองน้ำแบบไหน ยี่ห้ออะไร ราคาควรสมเหตุสมผลคะ

5.รูปทรงของเครื่องกรองน้ำ ควรพิจารณาด้วยว่าเมื่อคุณซื้อเครื่องกรองน้ำมาแล้วจะนำมาติดตั้งบริเวณใดของบ้าน ขนาดของที่ตั้งกว้างยาวเท่าไหร่ เพราะหากซื้อมาผิดก็ไม่สามารถวางในตำแหน่งที่ต้องการได้ เครื่องกรองน้ำที่มีขนาดใหญ่จนเกินไป สีสันไม่สวยงาม อาจจะทำให้ดูขัดหูขัดตาและทำให้บ้านดูรกได้คะ แต่หากคุณวางไว้ในตู้ปิดมิดชิดเรื่องดีไซด์ก็คงไม่จำเป็นสักเท่าไหร่

เครื่องกรองน้ำไม่ใช่สิ่งสิ้นเปลืองแต่เป็นตัวช่วยให้เราได้ดื่มน้ำสะอาดอยู่เป็นประจำ ซึ่งการบริโภคน้ำสะอาดนั้นจะทำให้เรามีสุขภาพที่ดีนะคะ…วันนี้คุณดื่มน้ำกี่แก้วแล้วคะ

ข้อมูลอื่นของการเลือกเครื่องกรองน้ำ
แนะนำเทคนิคเลือกเครื่องกรองน้ำ อย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน: water.999article.com
วิธีการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ: manager.co.th

Previous articleหลังคาเมทัลชีส … การเลือกซื้อและข้อดีข้อเสีย
Next articleการเลือกชุดชั้นใน .. เลือกอย่างไรให้ใส่แล้วดูดีและมั่นใจ