หลังจากที่ “น้อง พอร์ส Yes Indeed ต้องการยกเลิกสัญญากับทางค่าย ทำให้ค่ายออกมาว่าจะฟ้องร้อง ซึ่งต่อมาทางน้องพอร์สได้มอบหมายให้ทนายตั้ม ษิทรา เป็นตัวแทนในการสู้คดีครั้งนี้
ล่าสุดทางทนาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความของน้องพอร์ส ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊คถึงกรณีนี้ว่า ตั้งแต่เซ็นสัญญา ทางค่ายไม่เคยส่งคนมาเทรนการร้องเพลงหรือดูแลบุคลลิกภาพ การแสดงต่างๆและไม่ได้มีการประสานกับมหาวิทยาลัยตามที่ได้ตกลงกันไว้ หรือแม้แต่ตอนที่น้องไปร้องเพลงเปิดหมวกก็ไม่ได้สนับสนุนอุปกรณ์หรือเครื่องแต่งกายใดๆ น้องพอร์สเริ่มท้อ หมดหวังในการเป็นนักร้องอาชีพ
แถมทางค่ายยังพยายามให้น้องพอร์สถ่ายคลิปนุ่งกางเกงในบอ็กเซอร์ จนทางบ้านเริ่มรับไมได้ ทั้งยังให้collab ติ๊กตอกของตัวเองและค่ายรวมกัน แต่น้องไม่เคยได้ค่าตัวเลย คุณพ่อจึงเข้ามาคุยกับค่ายเพื่อขอยกเลิกสัญญารวม 6 ครั้ง แต่ทางค่ายปฏิเสธ นับตั้งแต่น้องเซ็นสัญญาจนถึงปลายเดือน พ.ค. 2565 ทางค่ายไม่เคยโปรโมทน้องในช่องทางไอจ หรือเฟซบุ๊คเลย จนน้องพอร์สฟอร์มวงขึ้นและตั้งชื่อวงว่า “Yes Indeed”
จนมีแฟนคลับมากมาย ทางค่ายถึงเริ่มแชร์ข่าวแลโพสต์เรื่องของน้อง และแจ้งกับสื่อว่าเป็นศิลปินของตน จากการอ่านสัญญาส่วนใหญ่จะให้สิทธิ์และประโยชน์กับค่ายแต่เพียงฝ่ายเดียว และในสัญญาก็ไม่ได้ระบุสิทธิ์ประโยชน์ว่าน้องจะได้เท่าไหร่ หรือเมื่อใด น้องจึงไม่สามารถเรียกร้องให้ค่ายจ่ายงเงินได้ ทำให้น้องเสียโอกาส รายได้ และเป็นอุปสรรคต่อการเจริญก้าวหน้าในอาชีพนักร้อง
