นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เข้าร่วมประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า หลายอย่างที่พูดกันในสภาและโจมตีคนในสภาฯ นั้น ส่วนตัวรับได้และยิ้มรับได้ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจและเรื่องอื่นๆ การให้ตนเองลาออกเพราะบริหารประเทศ ถ้าย้อนกลับไปแ 2549 หรือ 2557 มีใครลาออกหรือไม่ แล้ววันนี้คนเหล่านั้นอยู่ที่ไหน กรณีการชุมนุมผมรักลูกหลานทุกคน เพราะจะเป็นพลังแผ่นดินในวยันข้างหน้าทุกคนเป็นคนไทย ผมรับฟังมีทั้งทำได้ และทำไม่ได้ การใช้สื่อออนไลน์ในการขับเคลื่อนนั้น ในฐานะเป็น “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” ได้มีการติดตามก็ทราบว่ากาแพร่ข้อความต่างๆ
มีโพสต์ครั้งแรก 200 คน จากนั้นเป็น 5 หมื่นคน ไม่ทราบว่า ใช้เทคโนโลยีอะไร มันมีเครือข่ายหรือเปล่าไม่แน่ใจ…แต่หากละเมิดเกินไปสังคมก็รับไม่ได้..สำหรับตนมีความเป็นห่วงมากที่สุด 2 เรื่อง คือ 1.ห่วงประเทศชาติว่าจะไปทางไหนอย่างไร ประเทศไทยควบคุมโควิดมีผู้ติดเชื้อต่ำ…เป็นจากการร่วมมือของคน ผมห่วงเพราะผมรัก ไม่ได้ขมขู่ใคร การระบาดโควิดส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจรุนแรง 2. ความแตกแยกในสังคมไทย โดยเฉพาะความคิดเห็นต่างกันในครอบครัว คนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ กลุ่มที่ถูกชักชวนในโลกโซเซียลจะเป็นกลุ่มที่เปราะบาง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมโดยไม่รู้ตัว รัฐบาลรับฟังข้อเรียกร้อง แต่ต้องไม่ไปลิดลอนสิทธิและความเชื่อที่แตกต่างและความศรัทธาของคนอื่น หากเราตั้งคณะทำงานไปพูดคุยและหาทางออกโดยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย กรรมใดใครก่อก็รับไป จะทำบุญทำกุศลก็ไม่มีใครช่วยได้ ผมจะปฏิบัติหน้าที่อยู่ต่อไป ชัดมั้ย
