12 พฤศจิกายน 2021 ที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในวันสำคัญในชีวิตของ Britney Spears นักร้องป๊อปสตาร์ คงไม่พ้นความจริงเพราะเป็นวันที่ผู้พิพากษาได้ประกาศให้ Jamie Spears ยุติการทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ชีวิตของลูกสาววัย 39 ปี (ขณะนั้น) อย่างเป็นทางการหลังจากเข้ามาดูควบคุมชีวิตและตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ของ Britney Spears มายาวนานถึง 13 ปี
หากใครต้องการรู้ชีวิต 13 ปีที่เป็นนกในกรงทองคำของ Britney Spears และกระบวนการทางกฎหมายก่อนที่เธอจะได้รับอิสรภาพโบยบินสู่โลกภายนอกด้วยปีกของตนเอง “Britney vs Spears” หนังสารคดีความยาว 93 นาที คือคำตอบ
Britney vs Spears ออกฉายทาง Netlflix ครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2021 ที่ผ่านมา ก่อนหน้าการพิจารณาตัดสินคดีครั้งสำคัญสำหรับชีวิตของนักร้องป๊อปสตาร์ดัง เป็นหนังสารคดีที่ตีแผ่เบื้องหลังคดีความระหว่าง Britney Spears และ Jamie Spears ซึ่งเป็นพ่อแท้ ๆ ที่ทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ชีวิตของลูกสาวคนดังมานานถึง 13 ปี
Erin Lee Carr ผู้กำกับหนังสารคดีหญิงชาวอเมริกัน ใช้เวลารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคดีนี้มาร่วม 1 ปีเศษ เพื่อนำเสนอเนื้อหาที่ให้น้ำหนักกับการขุดคุ้ยการทำงานและเรื่องราวที่ไม่โปร่งใสของ Jamie พร้อมด้วยการตั้งคำถามให้กับสังคมถึงความยุติธรรมของตัวกฎหมายว่าด้วยบทบาทผู้พิทักษ์ชีวิตว่า มีความเหมาะสม มีมุมในแง่บวกและลบต่อเหล่านกในกรงทองอย่างไร
เทรลเลอร์ของ Britney vs Spears เปิดตัวด้วยประโยคสั้น ๆ แต่ทรงพลังว่า “ฉันเพียงแค่ต้องการชีวิตของตนเองคืน” ซึ่ง Britney ได้กล่าวขณะขึ้นให้การกับผู้พิพากษาแห่งศาลสูงลอสแองเจลีสเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2021 ที่ผ่านมา
Britney vs Spears ไม่ได้ถ่ายทอดมุมด้านมืดของ Jamie เพียงฝ่ายเดียว แต่ยังย้อนไปถึงช่วงที่ Britney มีสภาพจิตใจเปราะบางอย่างสูง ถึงขั้นป่วยทางจิตและต้องเข้ารับการบำบัด จนชีวิตเธอช่วงนั้นจัดว่า “พัง” มีพฤติกรรมที่เสี่ยงทั้งตัวเองและคนรอบข้าง โดยเฉพาะลูกชาย 2 คนที่เกิดจากอดีตสามี จึงเป็นโอกาสให้ Jamie เข้ามาจัดการเรื่องการดำเนินชีวิตส่วนตัว ธุรกิจ และทรัพย์สิน ทั้งที่ห่างเหินลูกสาวคนดังมานานหลังหย่าขาดจากแม่ของ Britney โดย Jamie ได้รับการอนุมัติจากศาลให้เป็น “ผู้พิทักษ์ผลประโยชน์” หรือ “Conservatorship” ตั้งแต่ปี 2008
Britney vs Spears ไม่ใช่ภาพยนตร์สารคดีเรื่องแรกของ Britney Spears โดยเมื่อปี 2021 เพิ่งมีสารคดีเรื่อง Framing Britney Spears (2021) ที่ The New York Times ผลิตออกมาฉายทางสตรีมมิ่ง Hulu ซึ่งไม่เพียงบอกเล่าเรื่องราวความสำเร็จของ Britney Spears แต่ยังนำเสนอประเด็นคดีผู้พิทักษ์ชีวิตจนกระแส #FreeBritney ไปทั่วโลก
