อนาคตไกล ๆ ไม่รู้ แต่อนาคตใกล้ ๆ Activision Blizzard ยืนยันว่า เกมเมอร์ยังจะได้เล่น Call of Duty บนเครื่อง PlayStation อย่างน้อย 3 ภาคหลังจากหลายคนหวั่นว่า Microsoft เจ้าของใหม่ จะจับแฟรนไชส์เกมสงครามยอดนิยมเป็นเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะ Xbox หลังจาก Microsoft ทุ่มเงินก้อนใหญ่ถึง 68.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เข้าซื้อกิจการ Activision Blizzard
ซึ่งถือลิขสิทธิ์เกมฮิตมากมายเช่น Call of Duty, Warcraft, Diablo, Overwatch แม้ข้อดีคือ Microsoft อาจนำเกมเหล่านี้บรรจุไว้ในระบบ Game Pass ให้สมาชิกเล่นบน Xbox โดยไม่ต้องซื้อขาด แต่อีกด้านหนึ่ง แฟรนไชส์ระดับแม่เหล็กอย่าง Call of Duty อาจถูกทำให้เป็นเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะ Xbox ก็เป็นได้แม้ว่า Phil Spencer ซีอีโอของ Microsoft Gaming ยืนยันว่าการเทคโอเวอร์ครั้งนี้ บริษัทไม่มีความคิดแย่งฐานลูกค้าของ PlayStation พร้อมยังจะรักษาข้อตกลงที่ Activision Blizzard เคยเซ็นสัญญาไว้
ล่าสุดมีรายงานจากสำนักข่าวระดับโลก Bloomberg ว่า Activision Blizzard อาจจะปรับแนวทางของ Call of Duty ซึ่งเคยปล่อยออกมาทุกปี มาเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ และที่สำคัญ บริษัทกำลังพัฒนาเกมใหม่อีก 3 ภาคที่ลงให้กับเครื่อง PlayStation
หนึ่งในนั้นคือ เกมในเมนซีรี่ส์ Modern Warfare ที่พัฒนาโดย Infinity Ward ส่วนอีกสองเกมอยู่ภายใต้การพัฒนาของ Treyarch อย่างไรก็ตาม Activision Blizzard ยังใช้อีก 2 สตูดิโอในการพัฒนาแฟรนไชส์ Call of Duty ได้แก่ Sledgehammer Games และ Raven Software แต่ในรายงานข่าวของ Bloomberg ไม่ได้กล่าวถึงเป็นที่คาดหมายว่า Call of Duty ทั้งสามภาค น่าจะเปิดตัวภายในปี 2023 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ Microsoft ดำเนินขั้นตอนเทคโอเวอร์และเข้าบริหารงาน Activision Blizzard เสร็จสมบูรณ์อย่างเป็นทางการ ซึ่งตามขั้นตอนแล้วใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง
Call of Duty ถือเป็นเกมประจำปีของ Activision Bizzard ก็ว่าได้เพราะมีผลงานใหม่ ๆ ออกมาแทบทุกปีนับตั้งแต่ Call of Duty ต้นฉบับ ลงตลาดช่วงปลายเดือนตุลาคม 2003 จนถึงเกมล่าสุดคือ Call of Duty: Vanguard ที่เพิ่งปล่อยช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2021 แฟรนไชส์เกมแนว FPS บรรยากาศสงครามดังกล่าวมีซีรี่ส์หลักอยู่ 3 ซีรี่ส์คือ World War II, Modern Warfare และ Black Ops หรือปฏิบัติการพิเศษ ยังไม่นับภาคเดี่ยวหรือ Standalone และเกมที่ออกเฉพาะเครื่องคอนโซล พกพา พีซี และโทรศัพท์เคลื่อนที่
