สื่อมอง Netflix ลุยตลาดเกม หวังดึงเวลาคนดู สร้าง Engagement

77

Netflix

เมื่อไม่นานมานี้ Netflix แพลตฟอร์มสตรีมมิงคอนเทนต์ระดับโลก เพิ่งเปิดให้บริการเกมมือถือบนแพลตฟอร์มของพวกเขา ประเดิมด้วย 5 เกมแรก ได้แก่ Stranger Things: 1984, Stranger Things 3, Shooting Hoops, Card Blast และ Teeter Up โดยที่สมาชิกไม่ต้องเสียค่าบริการเพิ่ม ไม่มีโฆษณา และไม่มีการซื้อในแอป

ช่วงแรกเป็นเกมที่สามารถเล่นบนอุปกรณ์มือถือระบบปฏิบัติการ Android เท่านั้น ยังไม่มีสำหรับ iOS รวมทั้งเป็นเกมเฉพาะผู้ใหญ่ และต้องใส่รหัส PIN เพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัว

เมื่อปี 2018 Netflix เคยเปิดตัว Black Mirror: Bandersnatch ภาพยนตร์แนวอินเตอร์แอ็คทีฟที่เป็นภาคแยกของซีรีส์เรื่องฮิต Black Mirror โดยจุดที่เรียกเสียงฮือฮาคือคนดูสามารถกดปุ่มตัวเลือกจากรีโมตเพื่อช่วยตัวละครตัดสินใจ นั่นคือคนดูสามารถกำหนดเส้นทางและการเดินเรื่องด้วยตัวเอง

Netflix ยังได้สร้างภาพยนตร์แนวนี้ตามมาอีกหลายเรื่อง เช่น You vs. Wild, Minecraft: Story Mode, Puss in Book: Trapped in an Epic Tale และ Headspace: Unwind Your Mind เพื่อสร้างสีสันใหม่ ๆ ให้กับคอนเทนต์ และดึงดูดความสนใจด้วยนวัตกรรมที่ทำให้คนดูสามารถเข้ามามีส่วนร่วมการรับชมคอนเทนต์ที่ต่างจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ

ช่วงกลางปีที่ผ่านมา Netflix ได้แต่งตั้ง Mike Verdu ขึ้นดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายพัฒนาเกมของบริษัท ควบคู่ไปกับการจัดตั้งแผนกทีมพัฒนาเกมอย่างเต็มรูปแบบ สำหรับ Mike Verdu ผู้นี้ เป็นอดีตผู้บริหารแผนกคอนเทนต์ AR และ VR ของ Facebook ที่เคยทำงานกับสตูดิโอเกมอย่าง EA, Kabam, Zynga และ Atari

ทางด้าน Bloomberg สำนักข่าวใหญ่ระดับโลก มองถึงการปรับกลยุทธ์ด้านคอนเทนต์ครั้งนี้ของ Netflix ว่า คงไม่สามารถผลักดันรายได้บริษัทให้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่เป็นไอเดียที่มีประสิทธิภาพมากพอต่อ Engagement Marketing ซึ่งช่วยผูกมัดหัวใจของกลุ่มลูกค้าด้วยการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีและภาพลักษณ์เชิงบวก

“เกมคงไม่ใช่จุดเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของ Netflix แต่เป็นแนวคิดนำเสนอความบันเทิงรูปแบบใหม่ที่จะทำให้ผู้บริโภคใช้เวลาอยู่บนแพลตฟอร์มของพวกเขานานมากยิ่งขึ้น”

Previous articleศึก AIC 2021 แบ่งกลุ่มรอบ 14 สุดท้ายแล้ว ร่วมเชียร์ 3 ทีมประเทศไทย
Next article3 ราศี ดวงเฮงสุดปังหลังวันที่ 11 เดือน 11 ปี 2564