ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอีกครั้งสำหรับเหล่าคอหนัง ที่รอคอย 2 ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปี 2020 อย่าง Black Widow (แบล็ควิโดว์) และ West Side Story (เวสต์ ไซด์ สตอรี) ที่ตามเดิมมีกำหนดลงโรงฉายในช่วงปลายปีนี้
แต่จากการแพร่ระบาดของไวรัส โคโรนา 2019 ที่กลายเป็นปัญหาใหญ่ให้กับทุก ๆ อุตสาหกรรม ไม่เว้นแม้แต่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก จากการที่หนังฟอร์มยักษ์มากมาย จำเป็นที่จะต้องเลื่อนการฉายออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อป้องกันการขาดทุนอันเกิดมาจากผู้ชม ที่ไม่สามารถเข้าโรงหนังได้ในหลาย ๆ ประเทศ
ล่าสุดมีการยืนยันแล้วว่า Black Widow ผลงานเรื่องแรกจาก Marvel Phase 4 จะถูกเลื่อนฉายอีกครั้ง ไปอีก 6 เดือนข้างหน้า จากกำหนดเดิม ที่จะเข้าฉายในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2021 กลายเป็น 7 พฤษภาคมปี 2022 แทน
การเลื่อนฉายในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 แล้ว จากที่โปรแกรมในครั้งแรก ถูกวางฉายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2020 แต่สุดท้ายจากผลกระทบของโรคระบาด ก็ทำให้หนังต้องเลื่อนฉายออกไป
และนั่นก็เป็นเหมือน คลื่นที่ส่งผลกระทบไปยังหนัง Marvel เรื่องอื่น ๆ ที่จำเป็นจะต้องเลื่อนวันฉายไปเป็นปี 2021 แทบทั้งสิ้น เช่น Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings ที่มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 7 พฤษภาคม 2021 แต่ต้องเลื่อนไปเป็นวันที่ 9 กรกฎาคม 2021 แทน
จากการเลื่อนฉายของ Black Widow ในครั้งนี้ ส่งผลให้เป็นครั้งแรก ที่จะไม่มีหนังในจักรวาล Marvel ลงโรงฉายเลยในปีนี้นับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา
ส่วนหนังอีกเรื่องคือ The West Side Story ของผู้กำกับรุ่นใหญ่อย่าง สตีว่น สตีลเบิร์ก ที่นำบทละครเวที บรอดเวย์ ในชื่อเดียวกันมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์แนวมิวสิคัล ที่ได้รับการคาดหมายว่า น่าจะประสบความสำเร็จได้ในปี 2020 และมีกำหนดลงโรงฉายในวันที่ 18 ธันวาคม 2020 แต่สุดท้าย ทุกอย่างก็ต้องถูกเลื่อนไปเป็นวันที่ 10 ธันวาคม 2021
