เมื่อวัคซีนโควิด-19 ของ บ.แอสตร้าเซนเนก้ามาถึงเมืองไทยและมีกำหนดการจะฉีดให้แก่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่สถาบันบำราศนราดูร โดยมีกำหนดการฉีดวันที่นี้ (12 มี.ค. 64) แต่ถูกเลื่อนการฉีดออกไปด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยเพราะมีรายการผลข้างเคียงในบางประเทศ
ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกแถลงการณ์เลื่อนการฉีดวัคซีน แอสต้าเซนเนก้า เนื่องจากมีบางประเทศ อย่าง เดนมาร์ก ออสเตรีย นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก ลัตเวีย ซึ่งได้รับวัคซีนล็อตเดียวกัน คือ ABB 5300 เพราะพบผลข้างเคียงและอาการไม่ถึงประสงค์ในผู้รับวัคซีนบางรายคือเกิดการแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือดดำในประเทศเดนมาร์กมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ป่วยหลายรายที่มีลิ่มเลือดทางหลอดเลือดต่าง ทางคณะแพทย์ของไทยจึงพิจารณาและชะลอการฉีดเพื่อติดตามสืบค้นจากเดนมาร์กและหน่วยงานทางด้านยุโรปก่อน
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ ยังระบุว่า วัคซีนของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ที่ฉีดแล้วมีผลข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์ เป็นล็อตการผลิตที่ ABB 5300 ซึ่งทางบริษัทฯ ได้จัดส่งให้แก่ 17 ประเทศในสหภาพยุโรป จำนวน 1 ล้านโดส ส่วนวัคซีนที่ไทยได้รับจำนวน 117,300 โดส เป็นล็อตที่ผลิตจากประเทศเกาหลี อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัยมีหยุดการใช้วัคซีนไว้ก่อน จนกว่าจะได้ผลการสืบค้นที่ชัดเจน
ทางด้านนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯและ รมต.สาธารณสุข ยืนยันว่าวัคซีนแอซตร้าเซนเนก้าเป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัย และได้รับมาตรฐานจากองค์การอนามัยโลก ฉีดให้ประชาชนไปแล้วกว่า 30 ล้านคน การชะลอหรือหยุดฉีดเพื่อสอบสวนหาข้อมูลเป็นเรื่องปกติทางการแพทย์ โดยเฉพาะวัคซีนใหม่และในการฉีดวงกว้างระดับประโลก
