ยอดขายแผ่นเสียงแซงซีดีเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีที่อเมริกา

58

อเมริกา

เมื่อปี 2021 เป็นช่วงเวลาฟื้นคืนชีพของแผ่นเสียงไวนิลอย่างแท้จริงเนื่องจากเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี ที่ยอดจำหน่ายแผ่นเสียงแซงหน้าซีดีในประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะที่ยอดจำหน่ายในสหราชอาณาจักรก็ยังเพิ่มขึ้นทุกปีเป็นปีที่ 14 ติดต่อกัน

อ้างอิงจากข้อมูลประจำปี 2021 ของ MRC Data (หรือชื่อเดิม Nielsen Music Products) และ Billboard ยอดจำหน่ายอัลบั้มเพลงที่จับต้องได้ (คือไม่นับดิจิทัล) ในสหรัฐอเมริกา เป็นแผ่นเสียงไวนิล 41.72 ล้านแผ่นจากทั้งหมด 82.79 ล้านแผ่น ซึ่งคิดเป็นกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ พุ่งสูงขึ้นจากตัวเลข 27.55 ล้านแผ่นในปี 2020 ถึง 51.4 เปอร์เซ็นต์

อัลบั้มที่ขายดีที่สุดในสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่แล้วคือ 30 ของ Adele ซึ่งตามตัวเลขเดือนพฤศจิกายน ขายไปได้ 318,000 แผ่น ตามมาด้วย Red (Taylor’s Version) ของ Taylor Swift และ Sour อัลบั้มเปิดตัวของ Olivia Rodrigo ที่ขายได้ 268,000 แผ่น ส่วนที่สหราชอาณาจักร ก็มีรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่า ยอดจำหน่ายแผ่นเสียงสูงที่สุดในรอบ 30 ปีเช่นกัน แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นจำนวนมากหรือน้อยกว่าแผ่นซีดี

BPI หรือ British Phonographic Industry ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว แผ่นเสียงในสหราชอาณาจักรขายไปได้มากกว่า 5 ล้านแผ่น แม้ขยับสูงกว่าปี 2020 เพียง 8 เปอร์เซ็นต์ แต่นับเป็นปีที่ 14 ติดต่อกันที่ยอดขายแผ่นเสียงเพิ่มขึ้น โดยอัลบั้มที่ขายดีที่สุดคือ Voyage ของ ABBA ตามมาด้วย 30 ของ Adele และ Seventeen Going Under ของ Sam Fender ซึ่งได้รับรางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยมประจำปีของสื่อ NME

ที่สหรัฐอเมริกา จากการศึกษาพบว่า คนกลุ่ม Gen Z ซึ่งเกิดระหว่างปี 1997 ถึง 2012 หรือปัจจุบันมีอายุระหว่าง 9 – 24 ปี เป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่สุดของตลาดแผ่นเสียงไวนิล โดย MRC Data ได้ทำการสำรวจผู้ที่มีอายุ 13 ปีขึ้นไปจำนวน 4,041 คน พบว่าคนกลุ่ม Gen Z ต่างซื้อแผ่นเสียงไวนิลในช่วง 12 เดือนก่อนหน้านี้

Previous articleจอร์แดน เผย ยังคงรักตัวละคร ในหนังเรื่อง Black Panther และหวังจะได้กลับมาในอนาคต
Next articleโรเบิร์ต แพททินสัน ย้ำประเด็นในอดีตกำลังตามกลับมาหลอกหลอนเขา