ต้นสัปดาห์ Sony Interactive Entertainment ยักษ์ใหญ่แห่งญี่ปุ่น เข้าซื้อกิจการ Bungie บริษัทพัฒนาเกมสัญชาติอเมริกัน ด้วยมูลค่า 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยปีที่แล้ว Take-Two Interactive เทคโอเวอร์ Zynga ที่ราคา 12.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ และต้นปีนี้ Microsoft ดึง Activision Blizzard เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรด้วยการทุ่มเงินสูงถึง 68.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งสามถือว่าเป็นดีลสำคัญในอุตสาหกรรมวิดีโอเกม
Sony มั่นใจว่า Bungie ที่ผลิตแฟรนไชส์เกมยอดนิยมอย่าง Halo และ Destiny จะเป็นกุญแจดอกสำคัญที่ช่วยให้พวกเขามียอดรวมผู้เล่นเกมบนเครื่อง PlayStation เพิ่มขึ้นมาก
Jim Ryan ประธานและซีอีโอของ Sony ให้สัมภาษณ์ว่า “ นี่เป็นก้าวสำคัญในกลยุทธ์ของเราที่จะขยายฐานผู้เล่นเกมบนเครื่อง PlayStation เราตระหนักดีว่าชุมชน Bungie มีความสำคัญขนาดไหน เราพร้อมที่จะให้การสนับสนุนสตูดิโอแห่งนี้อย่างเต็มกำลัง พวกเขายังจะมีอิสระในการทำงานเพื่อเติบโตต่อไปบนเส้นทางของตนเอง ”
เมื่อปี 2000 Microsoft ได้เข้าซื้อกิจการบริษัท Bungie ซึ่งได้สร้าง Halo: Combat Evolved เป็นเกมเปิดตัวให้กับเครื่องคอนโซล Xbox และมียอดจำหน่ายหลายล้านก๊อปปี้ ถือเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญพลักดันให้ Xbox ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
ต่อมาในปี 2007 Bungie ได้แยกตัวจาก Microsoft กลับมาเป็นบริษัทอิสระอีกครั้งแต่ยักษ์ใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกายังครอบครองสิทธิ์เกมแฟรนไชส์ Halo โดยปัจจุบัน Bungie ซึ่งสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในรัฐวอชิงตัน มีพนักงานรวมกันมากกว่า 900 คน และกำลังพัฒนาจักรวาล Destiny 2 เกมแนวยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งที่ลงสู่ตลาดเมื่อปี 2017
Pete Parsons ประธานบริษัท Bungie กล่าวว่า “ เราและ SIE เชื่อตรงกันว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเกมระดับไอพี (intellectual property) เท่านั้น จักรวาล Destiny มีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ และด้วยการสนับสนุนของ SIE จะทำให้ Bungie กลายเป็นบริษัทบันเทิงมัลติมีเดียระดับโลก ที่พร้อมส่งมอบความคิดสร้างสรรค์และวิสัยทัศน์ออกไป ”
อนึ่ง Destiny วางจำหน่ายเมื่อปี 2014 บนแพลตฟอร์ม PlayStation 3, PlayStation 4, Xbox 360 และ Xbox One ตามมาด้วย Destiny 2 อีกสามปีต่อมาสำหรับ Microsoft Windows, PlayStation 4, PlayStation 5, Xbox One, Xbox Series X/S และ Stadia
