ปีหน้าอาจเป็นปีสุดท้ายแล้วที่เกมเมอร์สายกีฬาลูกหนังจะได้เห็นแฟรนไชส์เกมฟุตบอลยอดฮิต FIFA แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เนื่องจากเป็นเพียงการเปลี่ยนชื่อใหม่ของ EA Games ค่ายผู้ผลิต เท่านั้น
ปัจจุบันวิดีโอเกมแนวแข่งขันฟุตบอลมีอยู่มากมายหลายยี่ห้อ แต่ถ้าให้เอ่ยชื่อเร็ว ๆ FIFA, Football Manager และ Pro Evolution Soccer (Winning Eleven) น่าจะเป็นชื่อที่ถูกหยิบยกมากเป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งในจำนวนนี้ เกมที่เรียกได้คล่องปากและดูเหมือนเป็นเกมฟุตบอลอย่างเป็นทางการมากที่สุดเห็นจะได้แก่ FIFA เพราะเป็นชื่อของ ฟีฟา หรือ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลการแข่งขันฟุตบอลทั่วโลก
แน่นอนว่าเมื่อถูกนำชื่อไปใช้ประโยชน์ทางธุรกิจ FIFA ย่อมเรียกค่าลิขสิทธิ์จาก EA Sports เป็นจำนวนเงินมหาศาล โดยมีรายงานว่า FIFA มีแผนที่จะเก็บค่าลิขสิทธิ์เพิ่มกว่า 3 หมื่นล้านบาทในทุก ๆ 4 ปีที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลก และในปีหน้าจะมีการแข่งขันฟุตบอลโลก หรือ เวิลด์ คัพ 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์
โดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมา EA Sports พยายามเจรจาต่อรองเพื่อลดค่าลิขสิทธิ์จาก FIFA อย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จที่น่าพอใจ และปี 2022 จะเป็นปีสุดท้ายแล้วของสัญญาที่ตกลงไว้ระหว่าง FIFA กับ EA Games ในการนำชื่อไปใช้
ทั้งนี้มีความเป็นไปได้สูงที่ EA Games จะไม่ต่อสัญญาใหม่กับ FIFA และ EA Games มีแผนที่จะรีแบรนด์ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ชื่อใหม่
แม้ EA Games ยังไม่ปิดประตูตายในการต่อรอง “ ราคา ” ค่าลิขสิทธิ์กับ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ แต่ทางบริษัทยังเดินหน้าหาทางออกควบคู่ไปด้วย ซึ่งเห็นได้จากการที่ EA Games ได้ไปจดทะเบียนการค้าใหม่ในชื่อว่า EA Sports F.C. โดยไม่มีการเปิดเผยวัตถุประสงค์ แต่หากพิจารณาจากสถานการณ์ดังกล่าวก็มีความเป็นไปได้ที่ EA Games จะใช้เป็นชื่อเกมใหม่แทน FIFA เพราะ F.C. ย่อมาจาก Football Club ที่ใช้อย่างแพร่หลายกับชื่อสโมสรฟุตบอลทั่วโลก ส่วน EA ก็เป็นชื่อที่รับประกันคุณภาพของเกมฟุตบอลได้เป็นอย่างดี
