อิสรพงษ์ ส.ส.หน้าใหม่จากชุมพร แห่งพรรคประชาธิปัตย์ รายงานตัวกับสภาแล้ว

12

ชุมพร

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2565 ที่ห้องรับรองพิเศษ 206 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา นายอิสรพงษ์ มากอำไพ ส.ส. จ.ชุมพร เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ภายหลังจากที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 65 เนื่องจากได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ชุมพร ในการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างลงเมื่อวันที่ 16 ม.ค.65 โดยมี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ ผอ.คุมการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 ชุมพร ได้ร่วมแสดงความยินดีและแนะนำขั้นตอนต่างๆ ให้ ส.ส.ใหม่ ในการนี้ นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้การต้อนรับพร้อมมอบบัตรประจำ ส.ส.และแจ้งสิทธิในการตั้ง ผู้ชำนาญการ นักวิชาการและผู้ช่วย ส.ส.ประจำตัว ส.ส.

ทั้งนี้ นายอิสรพงษ์ กล่าวว่า ตนรู้สึกตื้นตันใจ ที่ได้เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎรของคนชุมพร โดยจะสัญญาว่า จะปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.อย่างเต็มกำลังความสามารถ และดูแลประชาชนเขตเลือกตั้งที่หนึ่ง จ.ชุมพร อย่างเต็มที่ แม้ว่าจะเหลือเวลาการทำงานในสภาฯ เพียงปีเศษก็ตาม ซึ่งจะเร่งแก้ปัญหาประชาชนผ่านกลไกสภาฯ ทั้งปัญหาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ปัญหาการท่องเที่ยว และปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีประชาชนในพื้นที่ร้องเรียน อีกทั้งได้ร่วมหารือกับนักธุรกิจ ผู้ประกอบการและทุกภาคส่วนภายในจังหวัดเพื่อขับเคลื่อนแก้ปัญหาในประเด็นดังกล่าว

ขณะที่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาประชาชน ชุมพร เขต 1 ลุ้นมาโดยตลอดว่ากกต.จะประกาศผลรับรองนายอิสรพงษ์ เมื่อใด และต้องยอมรับว่า กระบวนการในการรับรองครั้งนี้ มีความผิดปกติ เนื่องจากครบ 60 วัน ที่มีการจัดเลือกตั้ง และกกต.จำเป็นต้องรับรองในช่วงเวลานี้ ทั้งที่เหตุในการกล่าวอ้างไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายอิสรพงษ์แต่อย่างใด ซึ่งที่ผ่านมา ตนได้ตั้งข้อสังเกตว่ามีกระบวนการที่อาจจะผิดปกติ แต่เมื่อ กกต.ได้มีการรับรองแล้วก็ถือโอกาสขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำให้นายอิสรพงษ์ ได้รับความเป็นธรรม ให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่แทนประชาชนจังหวัดชุมพร เขต 1 แต่สิ่งที่ต้องระมัดระวังต่อไป คือ การสอบสวนในข้อร้องเรียน ที่แม้ว่านายอิสรพงษ์ จะยืนยันมาโดยตลอดว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อร้องเรียนดังกล่าว และไม่มีพยานหลักฐานใดที่เกี่ยวพัน อีกทั้งนายอิสรพงษ์ยังได้ดำเนินการแจ้งความเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ตนจึงกังวลว่าจะมีอำนาจใดเข้ามาแทรกแซงกระบวนการทำงานของ กกต.หรือไม่ จึงขอฝากไปยัง กกต.ให้ทำหน้าที่ทุกอย่างโดนยึดข้อเท็จจริง และกรอบของกฎหมาย ตัดสิทธิ์อยู่บนพื้นฐานของความเที่ยงธรรม

Previous articleสมศักดิ์ ย้ำพรรคเล็กไม่มีทางแตกแถว เตือนยุบสภายังไม่เหมาะ
Next articleไทยพร้อมแล้ว เตรียมเปิดศึก เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิป 2022 ด้วยมาตรการที่เข้มงวด