สำหรับหนังเสียดสีสังคมกับเผด็จการในคราบประชาธิปไตยอย่าง The Dictator หนังสุดเพี้ยนตลกร้ายที่จะนำให้คุณไปพบกับมุมมองของผู้นำจอมแสบที่พร้อมจะทำตามใจตัวเองทุกอย่าง
The Dictator (2012) ซึ่งพอเข้าฉายในโรงหนังบ้านเราก็ใช้ไทยตรงตัวว่า “ จอมเผด็จการ ” เล่าถึง นายพลอะลาดิน ผู้ปกครองจอมเผด็จการทางฝั่งแอฟริกาเหนือ เขาเป็นผู้นำสาธารณรัฐวาดิยา และเขาไม่ได้ยอมให้ประชาธิปไตยเข้ามาในดินแดนของเขามากนัก แม้ว่าตัวเขาจะบอกว่าประเทศของเขาให้อิสระแก่ประชาชน
แต่ถึงกระนั้นเมื่อ นายพลอะลาดิน ถูกเรียกตัวไปเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติที่กรุงนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา นั่นทำให้เกิดความวิบัติในชีวิตขอเขาเมื่อเขาถูกลักพาตัวและโกนหนวดโกนเคราจนไม่มีใครจำได้ก่อนที่ถูกนำตัวไปทิ้ง
ใครมาเห็นสภาพของ นายอะลาดินจอมเผด็จการผู้ยิ่งใหญ่ ขณะนั้น จะไม่มีใครเชื่อเลยว่านี่คือผู้นำในประเทศเผด็จการ ต่อมาเขาได้รับการช่วยเหลือจาก โซอี หญิงสาวแกนนำการประท้วงต่อต้านเผด็จการ ที่ให้ที่พักพิงกับเขาและให้เขาช่วยทำงาน
จากความลำบากในครั้งนี้ทำให้ นายพลอะลาดิน ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างและดูเหมือนว่าตัวเขาจะเข้าใจในเรื่องประชาธิปไตยมากขึ้น
สำหรับคำวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่อง The Dictator หนังให้แง่คิดตลกร้าย ซึ่งมันอาจจะสะท้อยเรื่องจริงของหลายประเทศที่มีลักษณะคล้าย ๆ กันนี้และมีอยู่จริงบนโลก หนังให้แนวคิดว่าสุดท้ายแล้ว การมีอำนาจผูกขาดกับคนใดคนหนึ่งมากไปมันไม่ใช่เรื่องดี
ในแง่ลบของหนัง หนังไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนอายุน้อยและยังไม่มีวุฒิภาวะ อันเนื่องมาจากหนังค่อนข้างเป็นหนังติดเรทที่มีเรื่องทะลึ่งลามกและเรื่องเห็นแก่ตัวมากมาย ซึ่งมันอาจจะทำให้ผู้ชมที่ยังไม่มีวุฒิภาวะ อาจจะรับชมและนำไปทำในทางที่ไม่ดีก็เป็นได้ ทั้งนี้ผู้ชมควรจะมีวิจารณญาณเป็นอย่างมาก
