เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2565 นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีวงการแพทย์ทางวิชาการ มีการถกเถียงถึงประสิทธิภาพของยาฟาวิพิราเวียร์ ที่ใช้ในการรักษาโรคโควิด-19 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่ายาฟาวิพิราเวียร์มีประสิทธิภาพเพียงพอใช้รักษาต้านโควิด-19 หรือไม่
นพ.วาโย กล่าวว่า การถกเถียงแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายหนึ่งอ้างอิงข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์ในต่างประเทศ ซึ่งรายงานออกมาอย่างต่อเนื่องว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพต่อการรักษาโรคโควิด-19 กับอีกฝ่ายที่อ้างอิงข้อมูลจากผลการศึกษาในประเทศ ที่รายงานว่ายาฟาวิพิราเวียร์มีประสิทธิภาพสามารถรักษาโรคโควิด-19 ได้ ในกลุ่มที่อาการไม่รุนแรงจนถึงอาการรุนแรงปานกลาง
เห็นได้ว่า ทั้งสองฝ่ายโต้แย้งกันโดยอาศัยข้อมูลคนละชุดกัน ดังนั้นการพิจารณาถึงน้ำหนักความน่าเชื่อถือของข้อมูล จึงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณา
ส.ส.ก้าวไกล ระบุเพิ่มว่า เราต้องให้ความเป็นธรรมว่า ยาฟาวิพิราเวียร์มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง เนื่องจากปรากฏผลการศึกษาในระดับสากลและในหลายประเทศตั้งแต่ในช่วงต้นว่า ค่อนข้างมีความปลอดภัยและมีแนวโน้มที่จะต่อสู้รักษาโรคโควิด-19 ได้ มีราคาที่ไม่แพง แต่ความรู้ทางการแพทย์ไม่มีวันหยุดนิ่ง โรคโควิด-19 ก็เป็นโรคอุบัติใหม่ การร่วมกันศึกษาวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ ๆ ไปพร้อมกันกับนานาอารยะประเทศเป็นสิ่งที่พึงกระทำ
“ผมวิงวอนไปยัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้แสวงหาความรู้ใหม่ ๆ ไม่ปิดหูปิดตา เปิดรับองค์ความรู้ทางการแพทย์ใหม่ ๆ หากผลการศึกษายาฟาวิพิราเวียร์ในไทยได้ผลจริง ขอให้เร่งตีพิมพ์เผยแพร่ผลการศึกษาวิจัยนี้ให้ประชาคมโลกรับรู้ และขอให้รับยาใหม่ ๆ ที่นานาประเทศได้พัฒนาขึ้นร่วมกันไปด้วย เช่น ยาโมลนูพิราเวียร์และแพกซ์โลวิด ซึ่งมีผลการศึกษาระดับสากลว่าต่อกรโควิด-19 ได้ แม้จะมีราคาสูงกว่ายาฟาวิพิราเวียร์ แต่ในฐานะ รมว.สาธารณสุข ต้องให้น้ำหนักชีวิตประชาชนสำคัญกว่างบประมาณที่ต้องสูญเสียไป”