โรคซึมเศร้า โรคร้ายที่คุกคามชีวิตถึงตาย

12645

โรคซึมเศร้า หรือ MDD (Major depressive disorder) เป็นโรคอย่างหนึ่งทางจิตเวชที่มีคนเป็นโรคนี้จำนวนไม่น้อยเลย ซึ่งส่งผลเสียทั้งในด้านอารมณ์ จิตใจ การดำเนินชีวิตประจำวัน การทำงาน รวมทั้งคนรอบข้างที่คอยเป็นห่วงเป็นใยด้วย แต่คนที่เป็นโรคซึมเศร้ามักไม่ค่อยรู้ว่าตัวเองกำลังเป็นโรคนี้อยู่ อาจคิดว่าตัวเองคงเครียดหรือคิดมากไปเอง ทำให้ถูกละเลยไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม วันนี้เราจะมารู้จักกับ โรคซึมเศร้า กันให้ชัดเจน จะได้ประเมินตัวเองได้ถูกว่าคุณกำลังเป็นโรคซึมเศร้าหรือแค่คิดมากไปเท่านั้น

โรคซึมเศร้า

นิยามของโรคซึมเศร้า

ถ้าพูดถึงการซึมเศร้า หลายๆคนก็คงจะนึกถึงอารมณ์ความรู้สึกที่โดดเดี่ยว ผิดหวัง หรือสูญเสียอะไรบางอย่างไปจากชีวิต ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้เป็นเรื่องปกติที่พบได้ในชีวิตประจำวันที่ทุกคนต้องเจอบ้างไม่มากก็น้อย แต่ถ้าอารมณ์ซึมเศร้าเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ และมีความรุนแรงมากขึ้น รวมทั้งมีอาการต่างๆตามมา เช่น นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดลงมาก ไม่มีความสนใจใยดีต่อโลกภายนอก ฯลฯ หนักๆอาจคิดฆ่าตัวตาย แบบนี้ก็เข้าข่ายของการเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว

ลักษณะของโรคซึมเศร้า

คนที่เป็นโรคซึมเศร้าไม่ใช่คนที่คิดมาก อ่อนแอ ท้อแท้ หรือคอยหนีปัญหา แต่เป็นความผิดปกติทางการแพทย์ ที่ต้องได้รับการรักษา และดูแลเอาใจใส่จนกว่าอาการจะทุเลา และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ คนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามักจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก ทั้งในด้านอารมณ์ ความคิด การดำเนินชีวิต และมีอาการผิดปกติทางร่างกายร่วมด้วย

ลักษณะที่สำคัญของโรคซึมเศร้า จะมีการเปลี่ยนแปลงสภาวะทางอารมณ์ ความคิด จิตใจ ร่างกาย และการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนี้

1.ด้านอารมณ์ ที่พบบ่อยๆคือ จากคนที่มีอารมณ์แจ่มใสจะกลายเป็นคนที่หดหู่ เศร้าสร้อย สะเทือนใจง่าย ร้องไห้บ่อย มีความอ่อนไหวไปหมด ตลอดจนรู้สึกเบื่อหน่ายต่อสิ่งรอบข้าง บางคนก็อาจมีอารมณ์ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย เห็นอะไรขวางหูขวางตาไปหมด กลายเป็นคนก้าวร้าวไป

2.ด้านความคิด คิดถึงแต่ความผิดพลาด ความล้มเหลวของตัวเอง ไม่เห็นทางออก ไม่เห็นอนาคต คิดแต่จะท้อท้อสิ้นหวัง จนกลายเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง มีความร่วนเรไม่แน่นอน คิดว่าตัวเองไร้ความสามารถ ไร้ค่า เป็นตัวถ่วงความเจริญ เป็นภาระของคนอื่น อยากไปให้พ้นๆจากสภาพนี้ หนักๆเข้าอาจคิดฆ่าตัวตายไปเลย

3.ด้านจิตใจ จะกลายเป็นคนเหม่อลอย หลงๆลืมๆ สมาธิความจำแย่ลง ทำอะไรผิดๆถูกๆ บางคนก็มีจิตใจฟุ้งซ่าน ไม่มีสมาธิ ทำอะไรไม่ได้นาน จนประสิทธิภาพการทำงานลดลง

4.ด้านร่างกาย จะรู้สึกไม่มีเรี่ยวแรง อ่อนเพลีย เหมือนเหนื่อยอยู่ตลอดเวลา จนไม่อยากทำอะไร กลายเป็นคนขี้เกียจ และมีปัญหาอื่นๆตามมา เช่น นอนหลับยาก หลับๆตื่นๆ นอนไม่เต็มอิ่ม เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดลง มีอาการท้องผูก แน่นท้อง ปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว ฯลฯ

5.ด้านความสัมพันธ์ จะกลายเป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยพูดจากับใคร หงุดหงิดง่าย ขี้น้อยใจ มีปัญหากับคนรอบข้าง

6.ด้านการทำงาน ประสิทธิภาพการทำงานลดลง ขาดความรับผิดชอบ ไม่มีสมาธิในการทำงาน ทำงานแบบลวกๆให้จบไปวันๆ ขาดงานบ่อย หมดพลังในการที่จะต่อสู้กับปัญหาต่างๆ

โรคซึมเศร้าต่างกับความเครียดอย่างไร

เราจะรู้ได้ยังไงว่าเป็นโรคซึมเศร้าหรือแค่เกิดจากความเครียด ก็มีข้อสังเกตง่ายๆ ดังนี้

1. ความเครียด จะเกิดได้กับทุกคนแต่จะเกิดในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งบางครั้งความเครียดอาจส่งผลดีในการกระตุ้นให้เกิดความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะต่ออุปสรรคปัญหาต่างๆ แต่บางครั้งมันก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพด้วยเช่นกัน สำหรับอาการของความเครียดโดยรวมจะมีดังต่อไปนี้

• นอนไม่ค่อยหลับ มักจะคิดแต่เรื่องที่กำลังเครียดอยู่

• มีความวิตกกังวล กระสับกระส่าย กลัวไปต่างๆนาๆ

• รู้สึกท้อถอย หมดแรง อยากจะหยุดพัก ไม่อยากคิดอะไรอีกแล้ว

• พฤติกรรมการกินเปลี่ยนไป เช่น เบื่ออาหาร หรืออาจกินมากขึ้น

• ความจำไม่ค่อยดี มีหลงๆลืมๆเป็นบางครั้ง

• โมโหหงุดหงิดง่าย

• ไม่ค่อยมีสมาธิในการทำงาน

คนที่ประสบปัญหากับความเครียดมักจะพยายามหาทางออกให้กับตัวเอง โดยการทำอะไรก็ได้แล้วรู้สึกว่าตัวเองสบายใจขึ้น เช่น อาจตะโกนออกมาดังๆ ไปเที่ยว ดูหนัง ร้องคาราโอเกะ ฯลฯ ซึ่งแต่ละคนก็มีวิธีคลายเครียดที่ไม่เหมือนกัน แต่ก็ทำให้หายจากความเครียดได้ หรืออย่างน้อยก็รู้สึกดีขึ้นบ้าง

2. โรคซึมเศร้า คนที่เป็นโรคซึมเศร้าจะมีภาวะของการซึมเศร้าเป็นระยะเวลาติดต่อกันนานๆ ไม่ใช่ทุกคนที่มีความเครียดแล้วจะเป็นโรคนี้ ถึงอาการหลายๆอย่างอาจจะคล้ายกับความเครียด แต่จะมีความรุนแรงและต่อเนื่องมากกว่า สำหรับอาการที่เกิดจากโรคซึมเศร้าโดยรวมจะมีดังนี้

• แยกตัวออกจากสังคม เก็บตัวไม่อยากพบใคร

• รู้สึกสิ้นหวัง ท้อแท้ หมดกำลังใจ

• โทษตัวเอง มองตัวเองไม่มีค่า

• เหนื่อยอยู่ตลอดเวลา ไม่มีแรง

• นอนไม่หลับ ถึงหลับก็หลับๆตื่นๆ

• กินน้อยลง หรืออาจกินมากกว่าปกติ

• น้ำหนักตัวลดลง หรืออาจอ้วนขึ้นมาก

• ไม่มีสมาธิ ความจำไม่ดี หลงๆลืมๆ

• ทำอะไรผิดพลาดบ่อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องอื่นๆ

• มีอารมณ์แปรปรวน เช่น เงียบขรึม ไม่พูดไม่จา หงุดหงิด ก้าวร้าว ฯลฯ

• อยากจะหนีไปให้พ้นๆ ไม่อยากรับรู้อะไร อยากฆ่าตัวตาย

• มีอาการต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไป

จะเห็นว่าความแตกต่างระหว่างโรคซึมเศร้ากับความเครียด คือ อาการที่รุนแรงมากกว่าและมีความต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดของโรคซึมเศร้า คือ การอยากฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหาไปให้พ้นๆ และมีการคาดการณ์ว่าในปี 2020 จะคนที่ตายจากโรคซึมเศร้าจะสูงเป็นอันดับสองรองจากโรคหัวใจเลยทีเดียว

ข้อมูลโรคซึมเศร้าอื่นๆ
ความแตกต่างระหว่าง ความเครียดและซึมเศร้า : nuuneoi.com

Previous articleเครื่องมือการเกษตร รู้จักใช้ ช่วยงานได้เยอะ
Next articleการเล่นหุ้น ถ้าก้าวแรกดี ก็มีสิทธิ์รวย