ตอบครบเรื่องเชื้อราที่เท้า! รักษาอย่างไร หายเองได้ไหม

13

เชื้อราที่เท้าเป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในฤดูร้อนที่อากาศร้อนชื้น ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อราชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Dermatophytes ที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในที่ที่อบอุ่นและชื้น เช่น ใต้ฝ่าเท้า ง่ามนิ้วเท้า เล็บเท้า เป็นต้น เชื้อราที่เท้ามักทำให้เกิดอาการคัน ลอกเป็นแผ่น แดง เปื่อย บางครั้งอาจเกิดแผลพุพองได้ ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาหนกใจที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิต วันนี้เราจึงจะมาตอบคำถามเกี่ยวกับเชื้อราที่เท้าพร้อมวิธีรักษาให้ได้รู้กันในบทความนี้

เชื้อราที่เท้าพร้อมวิธีรักษา

รู้จักเชื้อราที่เท้าก่อนรักษา

เชื้อราที่เท้าสามารถติดต่อกันได้ผ่านการสัมผัสกับสิ่งของหรือพื้นผิวที่มีเชื้อราอยู่ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

  • เชื้อราที่ฝ่าเท้า มักพบบริเวณฝ่าเท้าด้านในและด้านข้าง มีลักษณะเป็นผื่นแดง ลอกเป็นแผ่น คัน
  • เชื้อราง่ามนิ้วเท้า มักพบบริเวณง่ามนิ้วเท้า มีลักษณะเป็นผื่นแดง ลอกเป็นแผ่น คัน มีกลิ่นเหม็น
  • เชื้อราที่เล็บเท้า มักพบบริเวณเล็บเท้าที่หนา เปราะ แยกออกเป็นชั้นๆ

สาเหตุของเชื้อราที่เท้า

เชื้อราที่เท้าสามารถติดต่อกันได้ผ่านการสัมผัสกับสิ่งของหรือพื้นผิวที่มีเชื้อราอยู่ เช่น รองเท้า พื้นห้องน้ำ สระว่ายน้ำ เป็นต้น นอกจากนี้ เชื้อราที่เท้ายังอาจเกิดจากปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น เหงื่อออกที่เท้ามาก เท้าอับชื้น สวมรองเท้าคับหรือไม่ระบายอากาศได้ดี ภูมิคุ้มกันบกพร่อง

อาการของเชื้อราที่เท้า

อาการของเชื้อราที่เท้ามักพบที่บริเวณฝ่าเท้า ง่ามนิ้วเท้า และเล็บเท้า โดยอาการที่พบได้บ่อย ได้แก่

  • คัน ลอกเป็นแผ่น แดง เปื่อย
  • อาจมีแผลพุพอง
  • เล็บเท้าหนา เปราะ แยกออกเป็นชั้นๆ

การรักษาเชื้อราที่เท้า

เชื้อราที่เท้าสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการใช้ยาต้านเชื้อรา ซึ่งมีทั้งแบบทาและแบบรับประทาน ยาต้านเชื้อราแบบทามักใช้สำหรับรักษาเชื้อราที่เท้าบริเวณฝ่าเท้าและง่ามนิ้วเท้า ส่วนยาต้านเชื้อราแบบรับประทานมักใช้สำหรับรักษาเชื้อราที่เล็บเท้า ซึ่งนอกจากการใช้ยาต้านเชื้อราแล้ว ผู้ป่วยยังสามารถดูแลตัวเองเพื่อช่วยให้เชื้อราที่เท้าหายเร็วขึ้นได้ ดังนี้

  • รักษาความสะอาดเท้าให้แห้งอยู่เสมอ
  • สวมรองเท้าที่ระบายอากาศได้ดี
  • ไม่แช่เท้าในน้ำนานเกินไป
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสิ่งของหรือพื้นผิวที่มีเชื้อราอยู่

เชื้อราที่เท้าหายเองได้ไหม

โดยทั่วไปแล้วเชื้อราที่เท้ามักไม่หายเอง หากปล่อยทิ้งไว้อาจลุกลามเป็นวงกว้างและยากต่อการรักษา ดังนั้น หากพบว่ามีอาการของเชื้อราที่เท้า ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา

คำแนะนำเพิ่มเติม

ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง และผู้สูงอายุ ที่พบว่ามีอาการของเชื้อราที่เท้า ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา หากเนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรง และเพื่อป้องกันการติดเชื้อเชื้อราที่เท้า ควรหลีกเลี่ยงการแช่เท้าในน้ำนานเกินไป สวมรองเท้าที่ระบายอากาศได้ดี และรักษาความสะอาดเท้าให้แห้งอยู่เสมอ

Previous article“พี่สาว พิม” ถามหาเจตนา “โกบอย” คุย “ทอยทอย”
Next articleคู่มือการฉีดวัคซีนไข้เลือดออก ฉีดเมื่อไร ป้องกันได้กี่ปี