สำหรับคนที่ไม่เคยท้องหรือตั้งครรภ์ อาจยังสงสัยว่าถ้าไม่ได้รับการตรวจไม่ว่าจะจากแพทย์หรือจากแผ่นตรวจการตั้งครรภ์แล้ว จะทราบได้อย่างไรว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์อยู่
อาการตั้งครรภ์ ในระยะแรกเริ่มจะมีอาการบ่งบอกดังต่อไปนี้
1. ประจำเดือนไม่มา โดยปกติประจำเดือนจะมาเป็นประจำทุกเดือนและมาในวันที่ค่อนข้างใกล้เคียงกันในทุกๆเดือน แต่หากเลยระยะเวลาที่ประจำเดือนมานานเกินกว่า 10 วัน อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณอาจจะตั้งครรภ์ แต่การที่ประจำเดือนมาไม่ปกติอาจจะเกิดจากสาเหตุอื่นๆได้นะคะ เช่น ความเครียด การรับประทานยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมน โรคบางชนิด อย่าง เบาหวาน โรคระบบต่อมไร้ท่อ เป็นต้น
คุณเคยสงสัยไหมคะว่าทำไมเมื่อตั้งครรภ์แล้วประจำเดือนจึงไม่มา เนื่องจากเมื่อร่างกายเข้าสู่ภาวะตั้งครรภ์จะผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนมากขึ้น ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้ประจำเดือนหยุด
2. อาการคลื่นไส้อาเจียน มักจะเกิดขึ้นในช่วงระยะครรภ์ประมาณ 6-12 สัปดาห์ และจะเป็นต่อเนื่องจนถึงเดือนที่ 3 ของการตั้งครรภ์ แต่ก็มีคุณแม่บางท่านมีอาการคลื่นไส้นานกว่านี้ อาการคลื่นไส้นี้เกิดจากฮอร์โมนที่เกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ไปรบกวนการทำงานของระบบทางเดินอาหาร อาการคลื่นไส้นี้มักเกิดในตอนเช้าหลังตื่นนอนใหม่ๆ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง คุรแม่บางท่านคลื่นไส้ในช่วงบ่ายและเย็นก็มีคะ อาการคลื่นไส้มักจะมีอาการอื่นเกิดร่วมด้วย เช่น วิงเวียศีรษะ ใจหวิว ใจสั่น หน้ามืด เป็นลม
3. ปัสสาวะบ่อย อาการนี้จะเกิดขึ้นเมื่อมีอายุครรภ์ 1-3 เดือน เนื่องจากมดลูกที่โตขึ้นจากการตั้งท้อง ต้องการเลือดไปหล่อเลี้ยงเพิ่มมากกว่าปกติ ร่างกายจึงปรับให้มีเลือดเพิ่มมากกว่าขึ้น ส่งผลให้ไตทำงานมากขึ้นตามไปด้วย จำเป็นต้องกรองเลือดที่ผ่านไตมากขึ้น ทำให้เกิดปัสสาวะมากขึ้น ในขณะเดียวกันมดลูกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจะไปเบียด กด กระเพาะปัสสาวะ ทำให้กระเพาะปัสสาวะมีพื้นที่น้อยลง ส่งผลให้ปัสสาวะบ่อยนั่นเอง ซึ่งอาการปัสสาวะบ่อยนี้จะหายไปเมื่ออายุครรภ์ประมาณ 4-5 เดือน
4. เต้านมคัด เกิดจากร่างกายเตรียมตัวที่จะสร้างน้ำนม จึงขยายใหญ่ขึ้น จึงทำให้เกิดอาการคัดตึง คุณแม่บางท่านจะมีรู้สึกเจ็บเต้านมและหัวนม จนไม่สามารถจับนมได้เลยก็มีคะ เมื่ออายุครรภ์มากขึ้นนมจะยังตึงขึ้น หัวนมจะเปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีคล้ำและมีขนาดใหญ่ขึ้น บริเวณรอบฐานนมก็จะขยายกว้างขึ้นและมีเส้นเลือดดำสีเขียวๆกระจายอยู่รอบ
5. อาการอ่อนเพลีย เมื่อปริมาณฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อคลายตัว ทำให้รู้สึกอยากนอน ภายในร่างกายเกิดการเผาไหม้อาหาร ใช้พลังงานมากขึ้นในการบำรุงทารกในครรภ์ ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูง จึงรู้สึกเหนื่อยล้า เมื่อย อยากพักผ่อน อาการอ่อนเพลียจะช่วยทำให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ไม่อยากทำอะไร กิจกรรมต่างก็จะลดลง คุณแม่ก็จะพักผ่อนมากขึ้นและเต็มที่ส่งผลดีต่อทารกในครรภ์
6. หายใจถี่ เนื่องจากทารกกำลังจะเจริญเติบโต ต้องการออกซิเจนในปริมาณมากขึ้น ทำให้คุณแม่หายใจถี่ รู้สึกเหนื่อย อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
7. เลือดออกทางช่องคลอดแบบกะปริดกะปรอย เนื่องจากมีการแบ่งเซลลืและฝังตัวของตัวอ่อนบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งอาการนี้จะเกิดขึ้นหลังจากที่มีการปฎิสนธิได้ประมาณ 11-12 วัน เลือดที่ออกมาจะเป็นสีจางๆ และหยุดไปเองภายใน 1-2 วัน
8. อารมณ์เปลี่ยนแปลง เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ทำให้เกิดอารมณ์อ่อนไหว แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ซึ่งเป็นอาการที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อาการเหล่านี้จะหายไปเอง ไม่ต้องกังวล
อาการเหล่านี้เป็นเพียงอาการเบื้องต้น ซึ่งคุณแม่บางท่านอาจไม่มีอาการ หรือบางท่านก็อาจมีอาการรุนแรง ลองนำไปสังเกตตัวเองดูนะคะ
ข้อมูลอ้างอิง
อาการคนท้อง: สัญญาณเริ่มต้นที่คุณอาจจะตั้งครรภ์: health-th.com
อาการคนท้อง สัญญาณสำคัญที่ควรรู้: pobpad.com
25 อาการคนท้อง & ลักษณะคนท้อง (อาการของคนตั้งครรภ์: medthai.com