การสอบใบขับขี่รถยนต์ แบบใหม่ (2557-2559)

12005

ตามที่ได้ทราบกันมาแล้วว่า กรมการขนส่งทางบกได้มีการปรับเกณฑ์การทดสอบ เพื่อการสอบใบขับขี่รถยนต์แบบใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2557 โดยเปลี่ยนข้อสอบให้มีจำนวนมากขึ้น และต้องตอบให้ถูกต้องมากขึ้น

การสอบใบขับขี่รถยนต์

ซึ่งแต่เดิมการสอบใบขับขี่รถยนต์จะใช้ข้อสอบ 30 ข้อ และต้องตอบถูก 23 ข้อขึ้นไป สำหรับการสอบใบขับขี่รถยนต์แบบใหม่นี้ จะปรับให้ยากมากขึ้นโดยใช้ข้อสอบ 50 ข้อ และต้องตอบถูก 45 ข้อขึ้นไป ซึ่งต้องตอบถูกถึง 90% เลยทีเดียว ส่วนข่าวที่ว่าจะปรับเปลี่ยนชั่วโมงการอบรมจาก 4 ช.ม. เป็น 12 ช.ม. นั้น ทางกรมการขนส่งทางบกได้ออกมายืนยันว่าไม่เป็นความจริง ยังคงใช้การอบรม 4 ช.ม. เหมือนเดิม

FBS

การจองคิวอบรมการสอบใบขับขี่รถยนต์

ทางกรมการขนส่งได้เปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถจองคิวอบรมเพื่อการสอบใบขับขี่รถยนต์ได้ด้วยตัวเอง หรือผ่านทางระบบออนไลน์ คลิ๊กที่นี่ ebooking.dlt.go.th

  • สนง.ขนส่งกรุงเทพ พื้นที่ 5 (จตุจักร)
    • หมายเลขติดต่อ 0-2271-8888 ต่อ 4201-4 หรือสอบถามได้ที่ 1584
    • เปิดรับจองคิวอบรมการสอบใบขับขี่รถยนต์ ไม่เกิน 100 คนต่อวัน
  • สนง.ขนส่งกรุงเทพ พื้นที่ 2 (บางขุนเทียน-ชายทะเล)
    • หมายเลขติดต่อ 0-2433-4773
    • เปิดรับจองคิวอบรมการสอบใบขับขี่รถยนต์ ไม่เกิน 50 คนต่อวัน และรับจองคิวผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น
  • สนง.ขนส่งกรุงเทพ พื้นที่ 3 (ตรงข้ามสุขุมวิท 62/1)
    • หมายเลขติดต่อ 0-2333-0035
    • เปิดรับจองคิวอบรมการสอบใบขับขี่รถยนต์ ไม่เกิน 100 คนต่อวัน และรับจองคิวผ่านระบบออนไลน์เท่านั้นเหมือนพื้นที่ 2
  • สนง.ขนส่งกรุงเทพ พื้นที่ 4 (สุวินทวงศ์)
    • หมายเลขติดต่อ 0-2543-5512
    • เปิดรับจองคิวอบรมการสอบใบขับขี่รถยนต์ ไม่เกิน 100 คนต่อวัน

สำหรับต่างจังหวัดให้ติดต่อ สนง.ขนส่งประจำจังหวัด ซึ่งการเปิดรับจองคิวอบรมการสอบใบขับขี่รถยนต์จะเป็นไปตามความเหมาะสม สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สนง.ขนส่งประจำจังหวัด

เอกสารที่ใช้ในการจองคิวอบรมการสอบใบขับขี่รถยนต์

ผู้ที่จะขอรับการสอบใบขับขี่รถยนต์ ต้องเตรียมเอกสารดังนี้

  • บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • ใบรับรองแพทย์ อายุไม่เกิน 30 วัน

ขั้นตอนการสอบใบขับขี่รถยนต์

การสอบใบขับขี่รถยนต์ จะมีขั้นตอนหลักๆอยู่ 6 ขั้นตอน และจะต้องผ่านแต่ละขั้นตอนเรียงตามลำดับ ดังนี้

  • ยื่นเอกสาร บัตรประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนา สำเนาทะเบียนบ้าน และใบรับรองแพทย์
  • การทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย เช่น การทดสอบตาบอดสี การทดสอบสายตาทางลึกและทางกว้าง การทดสอบปฏิกิริยาตอบสนองของเท้า ฯลฯ
  • อบรมความรู้เกี่ยวกับการขับขี่รถ
  • สอบข้อเขียน (สอบภาคทฤษฏี)
  • สอบการขับขี่ (สอบภาคปฏิบัติ)
  • ชำระเงิน และรอรับใบขับขี่

การสอบตรวจสมรรถภาพร่างกาย

จะมีฐานสอบเกี่ยวกับสายตา คล้ายเกมส์ให้เราเล่นเกมส์คือ ไฟขึ้นสามสี ตามสัญญาณไฟจราจร เขียว เหลือง แดง ไฟจะแสดงแบบสุ่มให้เราตอบว่าเป็นสีอะไร เกมส์ที่สองบอกสีสัญญาณไฟที่แสดงบนหางตาเรา ให้เรามองตรง ๆ และบอกว่าไฟที่แสดงที่ด้านข้างตาเราสีอะไร และเกมส์สุดท้าย ทดสอบสายตาแนวลึก จะมีแท่งไม้ 2 แท่ง แท่งหนึ่งอยู่กับที่และให้เราเลื่อนอีกแท่งมาให้ตรง เกมส์ที่สี่ ทดสอบเหยียบคันเร่งแล้วเบรคเมื่อสัญญาณไฟแสดง

แนวข้อสอบในการสอบใบขับขี่รถยนต์

ทางกรมการขนส่งได้ให้แนวข้อสอบในการสอบใบขับขี่รถยนต์เอาไว้ 1,000 ข้อ ซึ่งในการสอบทั้งภาคทฤษฏี (สอบข้อเขียน) จะใช้คอมพิวเตอร์สุ่มข้อสอบขึ้นมา 50 ข้อ จาก 1,000 ข้อ ซึ่งแต่ละคนก็จะได้ข้อสอบที่ไม่เหมือนกันแต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไปเพราะกรมการขนส่งได้เอาแนวข้อสอบในการสอบในขับขี่รถยนต์มาเปิดเผยไว้แล้วที่เว็บไซค์ของกรมการขนส่ง

แนวข้อสอบข้อเขียน (ภาคทฤษฎี) จะแยกตามหมวดหมู่ ดังนี้

ความรู้ในการทดสอบการขับขี่ (ภาคปฏิบัติ) หัวข้อจะเหมือนกับการสอบภาคทฤษฏี

รวมท่าสอบใบขับขี่รถยนต์

ข้อมูลวิดีโอแนะนำท่าการสอบใบขับขี่รถยนต์ที่ถูกต้อง จาก youtube.com

การสอบใบขับขี่รถยนต์ ไม่ใช่เรื่องที่ยากมากนักเพราะทางกรมการขนส่งมีแนวข้อสอบให้ดู และข้อสอบก็จะออกตามแนวนี้เท่านั้น ไม่ได้มีข้อสอบเกินกว่านี้ หรือไปเอาข้อสอบที่ไหนมาให้สอบอีก หากเตรียมตัวมาพร้อมก็จะผ่านการสอบใบขับขี่รถยนต์ได้แบบสบายๆ

Previous articleมะเร็งตับ ปัจจัยเสี่ยง อาการ สาเหตุและการรักษา
Next articleอายุยางรถยนต์ สัญญาณเตือนควรเปลี่ยนยางเมื่อไหร่ดี