มะเร็งตับ ปัจจัยเสี่ยง อาการ สาเหตุและการรักษา

5662

ตับมีหน้าที่ย่อยและเก็บสารอาหารที่ดูดซึมมาจากลำไส้ สร้างสารที่ทำให้เลือดแข็งตัว ขับน้ำดีสู่ลำไส้เพื่อช่วยในการดูดซึมอาหาร และช่วยกำจัดของเสียออกจากร่างกาย เมื่อเซลล์ตับถูกทำลายก็ก่อให้เกิดมะเร็งตับ

มะเร็งตับ

โรคมะเร็งตับสามารถแบ่งได้ 2 ชนิด คือ มะเร็งของเซลล์ตับ เป็นชนิดที่พบได้บ่อยมากที่สุด และ มะเร็งของท่อน้ำดีในตับ

สมุนไพรรักษามะเร็งตับ

ปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดมะเร็งตับ

ปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดมะเร็งตับก็คือ ภาวะตับแข็งที่มักเกิดจากการดื่มแอลกอฮอร์ในปริมาณมากและต่อเนื่องกันเป็นเวลาเป็นปีๆ หรือภาวะตับแข็งที่เกิดจากไขมันเกาะตับเรื้อรัง  การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบทั้งชนิดบีและชนิดซี

การได้รับยาบางชนิดและสารเคมีบางชนิด เช่น ยาฮอร์โมนเพศชาย สารอะพลาท็อกซินที่มักพบปนเปื้อนอยู่ในเมล็ดพืช ถั่วลิสง ข้าวโพด พริกแห้ง การรับประทานอาหารปิ้งย่าง และโรคทางพันธุกรรม อย่างโรคเบาหวาน เป็นต้น

อาการและสาเหตุของโรคมะเร็งตับ

สำหรับมะเร็งตับนั้นผู้ป่วยมักจะทราบว่าตนเองเป็นโรคก็เมื่อมะเร็งได้ลุกลามมากแล้วหรือในระยะสุดท้ายเสียแล้ว อาการที่พบได้บ่อยคือ ปวดท้องบริเวณด้าขวาส่วนบนหรือปวดร้าวไปที่หลังและที่ไหล่ ท้องบวม จุกเสียดแน่นท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดแบบไม่ทราบสาเหตุ คลำเจอก้อนบริเวณตับ และมักมีอาการดีซ่านร่วมด้วย คือ ตัวเหลือง ตาเหลือง ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะไม่แสดงในระยะแรกเริ่มของมะเร็ง

มะเร็งตับสามารถแบ่งระยะมะเร็งได้ 4 ระยะ

  • ระยะที่ 1 เริ่มจากมีก้อนเนื้อเพียง 1 ก้อน ขนาดน้อยกว่า 5 ซม. ไม่มีอาการใดแสดงออกมาแต่หากก้อนเนื้อกดทับอาจทำให้เกิดการอุดตันของท่อน้ำดีได้
  • ระยะที่ 2 มะเร็งเพิ่มจำนวนก้อนมากขึ้นแต่ไม่การแพร่กระจาย
  • ระยะที่ 3 เป็นระยะที่อาจพบเนื้องอกขนาดใหญ่กว่า 5 ซม. อย่างน้อย 1 ก้อน หรือ ก้อนมะเร็งเติบโตที่เส้นเหลือดหลักในตับ หรือมะเร็งแพร่กระจายไปยังอวัยวะใกล้ตับแต่ยังไม่เข้าต่อมน้ำเหลือง
  • ระยะที่ 4 สุดท้าย คือมะเร็งได้แพร่กระจายเข้าต่อมน้ำเหลืองหรือกระจายไปยังอวัยวะรอบข้างและอวัยวะที่อยู่ไกลตับ เช่น กระดูก

การรักษาเมื่อป่วยเป็นมะเร็งตับ

แพทย์จะทำการวางแผนการรักษาผู้ป่วยตามสภาวะความรุนแรงของโรค ขนาดและลักษณะของเซลล์มะเร็ง ระยะของโรคและการแพร่กระจาย รวมถึงสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วยด้วย แล้วพิจารณาวิธีที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดให้กับผู้ป่วยแต่ละรายไป วิธีรักษาโดยทั่วๆไปคือการผ่าตัด รังสีรักษา เคมีบำบัด และการปลูกถ่ายตับ ซึ่งจะทำก็ต่อเมื่อมีก้อนในตับมีขนาดน้อยกว่า 5 เซนติเมตร และผู้ป่วยมีอายุน้อยกว่า 70ปี คะ

สมุนไพรรักษามะเร็งตับ

เมื่อตับมีปัญหาทำให้ระบบการเผาผลาญ การย่อยและการดูดซึมอาหารของร่างกายมีปัญหาตามไปด้วย ดังนั้นผู้ป่วยมะเร็งตับมักต้องเผชิญปัญหาการขาดสารอาหารยิ่งทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตเร็วขึ้นโดยเฉพาะผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้าย ด้วยเหตุนี้การดูแลด้านโภชนาการสำหรับผู้ป่วยมะเร็งตับจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งมาก ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ อย่าง นม ไข่ ปลา เวย์โปรตีน และวิตามินชนิดต่างๆ ซึ่งช่วยยืดอายุผู้ป่วยได้นานขึ้น

การรักษามะเร็งตับวิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกันการเกิดมะเร็งโดยการหมั่นตรวจคัดกรองมะเร็งตับอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง การตรวจคัดกรองนั้นผู้ป่วยจะได้รับการอัลตราซาวด์ช่องท้องเพื่อดูตับ การตรวจเลือดเพื่อหาระดับโปรตีนชนิดที่เรียกว่า เอเอฟพี (Alphafetoprotein)  นอกจากนี้ควรตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีและซี เราพบว่าผู้ป่วยกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นมะเร็งตับที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบจะมีการลุกลามที่เร็วกว่าปกติ 2 เท่า ปัจจุบันเราสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบได้ตามสถานพยาบาลต่างๆ  ได้แล้วนะคะ ควรงดดื่มสุรา งดสูบบุหรี่ และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

ไม่ว่าจะป่วยเป็นมะเร็งตับหรือโรคอื่นๆ กำลังในการสู้กับโรคภัย ไม่ยอมแพ้กับโรคร้าย มีความเชื่อมั่นในการรักษา และการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด ก็จะทำให้ผู้ป่วยมีอายุที่ยืนนานขึ้นและในบางรายก็สามารถหายจากโรคร้ายๆได้คะ

ข้อมูลอ้างอิง

Previous articleเทคนิค การซื้อรถมือสอง สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา
Next articleการสอบใบขับขี่รถยนต์ แบบใหม่ (2557-2559)