12 ชั่วโมงให้หลัง “ ฮาร์เดน ” ฉะต้นสังกัด ย้ายเข้าทีม เน็ตส์ สมใจ

10

เน็ตส์

เจมส์ ฮาร์เดน การ์ดซุปเปอร์สตาร์ของ ฮิวสตัน ร็อคเก็ตส์ ได้ย้ายทีมร่วมงานกับ บรูกลิน เน็ตส์ สมใจหลังจากที่เจ้าตัวออกมาเหวี่ยงอารมณ์ในช่วงให้สัมภาษณ์

เจมส์ ฮาร์เดน เริ่มที่จะหมดความอดทนและไม่สบอารมณ์กับทีมต้นสังกัดอย่าง ฮิวสตัน ร็อคเก็ตส์ หลังจากที่ฮาร์เดนได้ออกมาให้สัมภาษณ์หลังเกมที่พวกเขาเพิ่งพ่ายให้กับ ลอส แองเจลีส เลเกอร์ส โดยที่ประเด็นสำคัญไม่ใช่ความพ่ายแพ้ในนัดนั้น แต่ฮาร์เดนพยายามที่จะสื่อให้เห็นว่า ภายในทีมเน่าเฟะเกินกว่าที่จะแก้ไขในหลาย ๆ จุด และตัวเขาเองก็วิงวอนให้ทีมพยายามอย่ารั้งให้เขาอยู่ร่วมเเฟรนไชส์ต่อไปหลังจากที่เขามองแล้วว่า อนาคตคงไม่มีความก้าวหน้า

ฮิวสตัน ร็อคเก็ตส์ เพิ่งพ่าย แอลเอ เลเกอร์ส 100 – 117 คะแนน เมื่อคืนอังคารที่ผ่านมา ส่งผลสถิติ 3 – 6 โดย เจมส์ ฮาร์เดน เจ้าของ เอ็มวีพี 1 สมัย ที่ลงสนามให้ทีมร็อคเก็ตส์ด้วยอาการไร้อารมณ์ร่วมตลอด 31 นาทีบนคอร์ท จนมีแค่ 16 คะแนน, 7 รีบาวน์ด, 6 แอสซิสต์ และ 1 สตีล ค่าบวกลบเมื่ออยู่บนสนามติดลบ 23

ฮาร์เดน กล่าวว่า “ ผมรักเมืองนี้ แล้วผมก็เชื่อว่าแฟน ๆ ทุกคนเห็นผมทุ่มเทให้กับร็อคเก็ตส์มาโดยตลอด แต่ปัญหาภายในของพวกเขาที่ไม่ยอมแก้ไขสักที ผมมองว่าเรื่องนี้เกินที่จะเยียวยาแล้ว ผมเชื่อได้ว่าปัญหาที่มีอยู่คงแก้ไขไม่หมด ซึ่งสิ่งที่ผมต้องการ พวกเขาไม่ใยดีเลยด้วยซ้ำ และผมมองว่า หากอยู่ร่วมร็อคเก็ตส์ต่อไป ก็คงไร้อนาคตหลังจากที่ปัญหาที่ผมได้กล่าวมาข้างต้น พวกเขาคงแก้ไขไม่ได้แม้แต่อย่างเดียว ”

แน่นอนว่าหลังจากบทให้สัมภาษณ์ของ เจมส์ ฮาร์เดน ครั้งนี้ ทำให้ชัดเจนแล้วว่า ตัวเขาเองเริ่มจะหมดเยื่อใยกับร็อคเก็ตส์ หลังจากที่สถานการณ์ของทีมในตอนนี้ คงจะเป็นฝั่งผู้เล่นเท่านั้นที่รู้ดีว่าปัญหาภายในเกิดขึ้นอย่างไร และนี่ก็คงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ฮาร์เดนไม่สามารถย้ายทีมได้สักที หลังจากที่ร็อคเก็ตส์พยายามที่จะคาดหวังค่าตัวของฮาร์เดนมากเกินไป จนทำให้ตัวเขาเองมองว่า หากอยู่ต่อไปก็ไม่มีอนาคต และได้ออกมาวิงวอนให้ร็อคเก็ตส์ปล่อยตัวเขาออกจากทีม

และสำหรับ เจมส์ ฮาร์เดน การ์ดเครางาม ก็เป็นอันว่าสมหวัง เขาปิดฉากกับร็อคเก็ตส์หลังจากร่วมทัพมานาน 9 ปี พร้อมก้าวไปเริ่มชีวิตใหม่กับเน็ตส์

Previous article“ ชไนเดอร์ ” เซ็น ซีฮอว์คส์ นั่งเก้าอี้ผู้จัดการทีมถึง 2027
Next articleWTA Tour 500 ประเดิมรายการแรกที่ อาบูดาบี “ ซาบาเลนกา ” คว้าแชมป์