ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย ลดการเกิดอุบัติเหตุ ลดการสูญเสีย

582

ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย … อย่างที่เราได้พบเห็นทางข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์หรือทางโทรทัศน์เกี่ยวกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าจะกล่าวว่าอุบัติเหตุเป็นเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็จริง แต่เราก็สามารถลดการเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกันคะ

ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย
ภาพจาก pixabay.com

การขับขี่รถยนต์ของคุณสามารถลดการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้แน่นอนคะ ถ้าคุณใส่ใจ …

ข้อมูลเพิ่มเติมแนะนำ: เพิ่มความปลอดภัยให้การขับขี่รถยนต์ด้วย กันโคลง AC POWER ปลอดภัย นุ่ม กระชับ รับการทรงตัว และโช๊คอัพคุณภาพ จาก Profender … กันโคลง AC POWER TWIN ARMS ได้มีการคิดค้น ทดสอบ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีการออกแบบมาเฉพาะแบบ เฉพาะรุ่น เพื่อประสิทธิภาพในการทรงตัวที่ดีอย่างสูงสุด


เตรียมสภาพร่างกายของตนเองให้พร้อม

การขับรถให้เกิดความปลอดภัยต่อตนเองและบุคคลอื่นนั้น ควรเริ่มจากตัวผู้ขับขี่เป็นอันดับแรกคะ การเตรียมสภาพร่างกายของตนเองให้พร้อมก่อนจะมานั่งอยู่หลังพวงมาลัยเป็นสิ่งจำเป็น ผู้ขับขี่ควรพักผ่อนให้เพียงพอ จะทำให้เรามีดวงตาที่สว่าง ไม่ง่วงนอน สามารถสู้แสงแดดได้ และทำให้การมองเห็นชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณจำเป็นต้องขับรถเป็นเวลานานๆ การพักผ่อนยิ่งมีความสำคัญอย่างมากคะ

หากคุณเกิดอาการง่วงนอนก็ควรหาที่จอดรถที่ปลอดภัย นอนหลับพักเสียหน่อย ไม่ควรฝืนขับรถต่อไป เพราะขณะนี้คุณกำลังขาดสติ เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน คุณเองอาจจะตัดสินใจได้ช้าและไม่ดีพอคะ ยิ่งกว่านั้นการรับประทานยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงนอนก็ไม่ควรขับรถนะคะ รวมถึงอาการมึนเมาที่เกิดจากการดื่มแอลกฮอล์ก็ควรจอดรถพักให้สร่างเมาเสียก่อน หรืออาจะจอดรถทิ้งไว้แล้วนั่งแทรกซี่กลับบ้านแทนคะ ตามที่ว่า “เมาไม่ขับ กลับแท็กซี่

ไม่สร้างความประมาทขณะขับขี่

ยิ่งไปกว่านี้ เรามักพบว่าอุบัติเหตุบางครั้งก็เกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่เอง คือการใช้โทรศัพท์มือถือในขณะขับรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการโทรศัพท์ การเล่นไลน์หรือการดูเว็ปไซด์ พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนแต่เป็นการดึงความสนใจของผู้ขับขี่ออกจากการขับขี่ หากคุณมีความจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ก็ควรใช้อุปกรณ์เสริม อย่าง หูฟัง เป็นต้น

ปฎิบัติตามกฎจราจร

อันดับต่อไปก็คือการขับขี่รถยนต์ให้ถูกต้องตามกฎจราจร ผู้ขับขี่เองควรศึกษาและทำความเจ้าใจกับกฏระเบียบต่างๆ ควรจะทราบว่าเครื่องหมายจารจรแต่ละป้ายมีความหมายอย่างไร ผู้ขับขี่เมื่อเจอป้ายจารจรเหล่านี้ควรจะต้องปฎิบัติเช่นไร สัญญลักษ์ต่างๆบนท้องถนนหมายถึงอะไร ควรปฏิบัติเช่นไร เช่น เส้นสีขาวทึบบนท้องถนนหมายถึงว่าผู้ขับขี่ห้ามเปลี่ยนเลน เมื่อไฟเหลืองติดหมายถึงผู้ขับขี่ควรชะลอรถยนต์ เป็นต้น ยิ่งกว่านั่นป้ายสัญลักษณ์ต่างจะทำให้ผู้ขับขี่ทราบได้ว่าเส้นทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไร คุณสามารถเตรียมความความพร้อมไว้ล่วงหน้าได

ตรวจสภาพรถยนต์ให้พร้อมเสมอ

อีกสิ่งที่สำคัญคือสภาพรถยนต์ของตนเอง อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งเกิดจากรถมีสภาพไม่สมบูรณ์เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้ จึงควรนำรถยนต์เข้าตรวจสภาพเป็นประจำ หากต้องเดินทางไกลๆ ยิ่งต้องนำรถยนต์เข้าตรวจก่อนออกเดินทางคะ เป็นการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและการเสียเวลาถ้ารถยนต์เกิดเสียระหว่างทาง

เรียนรู้ทักษะการขับขี่รถยนต์ในสภาวะต่างๆ

ส่วนทักษะการขับขี่รถยนต์ของแต่ละบุคคลสามารถเรียนรู้และศึกษาได้ อย่างถ้าคุณต้องขับรถขึ้นทางลาดชันหรือขึ้นดอย คุณควรจะใช้เกียร์ต่ำ หรือเกียร์.  D เครื่องยนต์จะทดเกียร์ลงมาเองโดยอัตโนมัติเพื่อเรียกกำลังฉุด การขับลงทางลาดชัน จำเป็นต้องใช้เกียร์ต่ำเพื่อเหนี่ยวรั้วไม่ให้รถวิ่งลงด้วยความเร็วที่เกินความจำเป็น แทนการเหยียบเบรก การขับรถในเส้นทางโค้งมุมแคบ มีแนวต้นไม้หรือสันเขาบังจนไม่สามารถมองเห็นเลนข้างหน้า ควรชะลอความเร็ว บีบแตรให้สัญญาณเตือนรถที่อาจจะแล่นเกินเลนมาให้ระวัง หรือการขับรถในช่วงหน้าฝน ถนนเปียกและลื่นกว่าปกติ การมองเห็นก็ไม่ชัดเจน คุณควรเปิดไฟหน้ารถ เปิดที่ปัดน้ำฝน ลดความเร็ว ไม่ควรขับชิดรถคันหน้า  สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้การขับขี่ของคุณปลอดภัยยิ่งขึ้น

ก่อนออกรถอย่าลืมการคาดเข็มขัดนิรภัย ปรับที่นั่ง กระจกมองหลัง กระจกมองข้างให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมเห็นชัดนะคะ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองและผู้อื่น

Previous article3 เทคนิคเลือกคอร์สจิตบำบัดอย่างไรไม่ให้โดนหลอก
Next articleบำรุงผิวอย่างอ่อนโยน เหมาะสำหรับสาวผิวแพ้ง่าย ด้วยสบู่น้ำผึ้งแอมเวย์