เทคนิคการดูโปรโมชั่นสินเชื่อ เลือกอย่างไรให้คุ้มที่สุด

160

ใครๆ ก็คงเคยฝันอยากมีเงินก้อนใหญ่เอาไว้ซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือลงทุนในธุรกิจส่วนตัว แต่การเก็บหอมรอมริบเพื่อให้ได้เงินก้อนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การขอสินเชื่อจากธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ จึงดูจะเป็นทางออกที่เป็นไปได้มากกว่า ในปัจจุบันสถาบันทางการเงินเหล่านี้ได้ทำโปรโมชั่นสินเชื่อออกมาแข่งขันกันอย่างต่อเนื่อง

โปรโมชั่นสินเชื่อ

ดังนั้น เราจึงอยากแนะนำให้คุณได้รู้เทคนิคในการดูโปรโมชั่นเหล่านี้ว่ามีรายละเอียดส่วนไหนที่ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษบ้าง


อัตราดอกเบี้ย

อัตราดอกเบี้ยถือว่าเป็นคุณสมบัติข้อแรกๆ ในการเลือกขอสินเชื่อก็ว่าได้ ปกติแล้วแต่ละโปรโมชั่นสินเชื่อจะบอกอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเอาไว้เพื่อดึงดูดความสนใจ เช่น “อัตราดอกเบี้ยพิเศษต่ำสุด 7.99%” ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วอาจเป็นอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่เราได้รับในช่วงครึ่งหลังของการผ่อนชำระ หรืออาจได้รับเฉพาะผู้ที่มีรายได้ต่อเดือนตรงกับเงื่อนไขเท่านั้น เช่น “ผู้ที่มีรายได้ต่อเดือน 20,000 บาทขึ้นไป รับดอกเบี้ย 12% ต่อปี ผู้ที่มีรายได้ต่อเดือน 30,000 บาทขึ้นไป เลือกรับดอกเบี้ย 7.99% หรือ 11% ต่อปี” เป็นต้น ดังนั้น อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดที่โฆษณาไว้อาจไม่ใช่อัตราดอกเบี้ยที่คุณจะได้รับจริง

นอกจากอัตราดอกเบี้ยที่ระบุไว้ในโปรโมชั่นสินเชื่อแล้วควรตรวจสอบประเภทของอัตราดอกเบี้ยด้วยว่าเป็นแบบคงที่ (Fixed Rate) หรือ แบบลอยตัว (Floating Rate) ซึ่งหากเป็นแบบคงที่ ข้อดีคืออัตราดอกเบี้ยจะมีค่าที่ตายตัวตลอดอายุสัญญา ถ้าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น ตัวเลือกนี้จะมีความเหมาะสมกว่า หากเป็นแบบลอยตัว อัตราดอกเบี้ยจะมีการปรับค่าในแต่ละปีไม่เท่ากัน ถ้าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของตลาดอยู่ในช่วงขาลง ตัวเลือกนี้จะเหมาะสมกว่า

ระยะเวลาผ่อนชำระ

ส่วนใหญ่แล้วโปรโมชั่นสินเชื่อจะให้เราเลือกระยะเวลาผ่อนชำระได้ เช่น 12 เดือน 24 เดือน 36 เดือน เป็นต้น ซึ่งตรงนี้ควรเลือกให้เหมาะกับความสามารถในการชำระหนี้คืนหรือแผนการเงินของตนเอง บางคนอาจเน้นผ่อนหนี้ให้หมดเร็ว สามารถผ่อนยอดสูงๆ ได้ ก็อาจเลือกแบบนั้น แต่ต้องระวังเรื่องสภาพคล่อง รายรับรายจ่ายให้ดี

ค่าธรรมเนียม

ค่าธรรมเนียมเป็นข้อมูลส่วนหนึ่งที่เรามักมองข้าม ควรเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้ดี เพราะสถาบันการเงินแต่ละที่จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมไม่เท่ากัน เช่น ปกติแล้วค่าธรรมเนียมการยื่นกู้จะอยู่ที่ 0.10 -0.25% แต่บางธนาคารมีโปรโมชั่นยกเว้นค่าธรรมเนียมในส่วนนี้ หรือ ค่าธรรมเนียมการไถ่ถอน ซึ่งเป็นค่าปรับในกรณีที่ผู้กู้ต้องการไถ่ถอนก่อนครบสัญญา ซึ่งสถาบันการเงินส่วนมากจะหัก 2-3% ของวงเงินกู้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีค่าประเมินทรัพย์ที่ต้องเปรียบเทียบ ดอกเบี้ยผิดนัด เป็นต้น

เงื่อนไขอื่นๆ

นอกจากข้อมูลที่ว่ามาข้างต้น ข้อกำหนดและเงื่อนไขอื่นๆ ที่ระบุไว้ในโปรโมชั่นสินเชื่อก็ควรศึกษาอย่างละเอียดเช่นกัน เช่น อายุ อาชีพ รายได้ เป็นต้น

เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเลือกสินเชื่อจากโปรโมชั่นมากมายที่มีอยู่ได้อย่างรู้เท่าทันมากขึ้น เพื่อให้ได้ตัวเลือกที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด และไม่ต้องกังวลปัญหาที่อาจตามมาภายหลังอีกด้วย

Previous articleรวมครีมรักษาฝ้าตัวเทพจาก 3 ประเทศที่ควรค่าแก่การจับจอง
Next article5 ร้านจัดฟันใกล้ MRT เดินทางง่าย ให้บริการด้านทันตกรรมครบวงจร