ความเป็นมาของ นิทานอีสป “อีสป” (Aesop) เป็นนักเล่านิทานอัจฉริยะสมัยกรีกโบราณ มีชีวิตอยู่ในช่วงปี 620-564 ก่อนคริสตศักราช ชาติกำเนิดของเขายังไม่ได้ข้อสรุป แต่สันนิษฐานกันว่าเขาอาจสืบเชื้อสายมาจากเทรส, กรีก, ฟริเจีย หรือเอธิโอเปีย แต่ชื่ออีสป มาจากคำว่า “อีทิออป” (Ethiops) ซึ่งเป็นภาษากรีกแปลว่าเอธิโอเปีย หลายคนจึงเชื่อว่าจริงๆแล้วเขาเป็นชาวเอธิโอเปีย ชีวิตของเขาไม่ได้สวยงามเรียบหรูนัก เขาเป็นทาสที่หลังค่อม หน้าตาอัปลักษณ์ เวลาพูดจะมีแค่เสียงในลำคอ แต่ด้วยความมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ทำให้เขาสามารถเอาชีวิตรอดและแก้ไขสถานการณ์คับขันต่างๆได้ดี
นายทาสของเขาชื่อ”อิดมอน” ได้เห็นแววของเขาจึงได้ให้เขาทำหน้าที่เป็นครูคอยสอนหนังสือให้กับลูกๆของเขาและเพื่อน อีสปมีความสามารถพิเศษในการมองคนว่าเป็นคนอย่างไร โน้มน้าวใจคน อิดมอนจึงได้ให้เค้าเป็นผู้ติดตามในการพบปะกับผู้คน เขาได้มีโอกาสได้ใช้ความสามารถของเขาในการเล่านิทานจนเป็นที่ชื่นชอบ ต่อมาอิดมอนปลดปล่อยเขาจากความเป็นทาส และอีสปได้เข้าไปอาศัยอยู่ในราชสำนักของกษัตริย์โครเอซุสแห่งลิเดีย (Croesus Of Lydia) ทำหน้าที่เป็นกวีคอยแต่งบทประพันธ์และเล่าเรื่องต่างๆแก่บรรดาข้าราชบริพาร แต่ด้วยรูปลักษณ์ภายของของเขาที่เป็นคนพิการอัปลักษณ์ ในช่วงแรกจึงไม่ค่อยมีคนให้ความชื่นชอบเขานักแต่ด้วยความสามารถของเขา จึงทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบและรับตำแหน่งทูตเจริญสัมพันธไมตรีเพิ่มด้วยอีกตำแหน่ง
เอกลักษณ์ของนิทานอีสป
นิทานของเขาเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “นิทานอีสป” (Aesop’s Fables) เป็นวรรณกรรมที่เป็นที่รู้จักและนิยมกันทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ได้มีการนำมาเป็นสื่อการเรียนการสอนสำหรับเด็กๆ เอกลักษณ์ที่ทำให้เรารู้ว่านิทานเรื่องใดเป็นของเขานั้นคือ ตอนจบจะลงท้ายว่า “นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า…” นิทานหลายเรื่องของเขาใช้สัตว์หรือสิ่งของที่ไม่มีชีวิตเป็นตัวดำเนินเรื่องเสมือนเป็นมนุษย์ ทำให้เป็นที่ชื่นชอบสำหรับเด็กๆมาก นอกจากความสนุกสนานแล้วสิ่งสำคัญของนิทานอีสปนั้นจะเป็นคติสอนใจที่ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย การใช้สัตว์หรือสิ่งไม่มีชีวิตเพื่อเปรียบเปรยเป็นตัวแทนของบุคคลในชนชั้นต่างๆกัน เนื่องจากในสมัยนั้นการพูดถึงบุคคลใดๆโดยตรงเป็นสิ่งพึงหลีกเลี่ยงเพราะจะนำภัยมาสู่ตัวเอง
ตัวละครบางส่วนของอีสปที่นำมาใช้บ่อยๆนั้นได้แก่
- สิงโต,พระอาทิตย์ แทนของผู้มีอำนาจ ชนชั้นปกครอง มีอำนาจมาก
- หนู แทนของผู้อยู่ใต้ปกครอง ชนชั้นบริวาร ไพร่ ทาส
- หมาป่า แทนคนเกเร อันธพาล
- หมู แทนปุถุชนธรรมดาทั่วไป มีสติปัญญา ความขยัน ความมุ่งมั่นต่างๆกันไป มีรักโลภโกรธหลง
- หมาจิ้งจอก แทนคนเจ้าเล่ห์เพทุบาย
- ลา แทนคนขี้เกียจหรือสติปัญญาต่ำต้อย
- เต่า แทนคนที่อ่อนด้อย แต่ขยัน มีความมุ่งมั่น
- กระต่าย แทนคนที่มีความสามารถในตัว แต่เหลิง หลงระเริงในความเก่ง
นิทานของอีสปนั้นมีเป็นพันๆเรื่อง แต่ด้วยความที่อีสปเล่านิทานของเขาโดยไม่มีผู้ใดจดบันทึกไว้ตั้งแต่ตอนนั้น จึงมีหลายเรื่องที่สูญหายไป และนิทานที่เราได้ฟังมาจึงอาจมีความผิดเพี้ยนต่อเติมไปจากต้นฉบับ ต่อมาภายหลังนิทานของเขาเริ่มเป็นที่นิยม จึงได้มีผู้รวบรวมไว้เป็นบันทึก มีหลักฐานบนแผ่นปาปิรุสของอียิปต์โบราณ “เดมิตริอุส” ชาวกรีกโบราณก็เป็นผู้หนึ่งที่ได้รวบรวมนิทานของอีสปไว้เมื่อ 30 ปีก่อนคริสตศักราชเป็นภาษาละติน และยังมีนักเขียนอีกหลายคนได้นำนิทานของอีสปมาเขียนขึ้นใหม่ จนกระทั่งเมื่อราวๆ ค.ศ.1400 มีบาทหลวงรูปหนึ่งชื่อว่า “มาซิมุล”ได้แปลนิทานอีสปจากละตินเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้นิทานอีสปเป็นที่แพร่หลายในอังกฤษและกระจายแปลออกเป็นภาษาต่างๆในยุโรปและกระจายเป็นภาษาอื่นๆต่อเนื่องไปทั่วโลก ทำให้นิทานอีสปได้รับความนิยมไปทั่วโลกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
นิทานอีสปเรื่องเด่นๆที่เราได้ยินบ่อยๆ
- กระต่ายกับเต่า
- ราชสีห์กับหนู
- หมาจิ้งจอกกับพวงองุ่น
- ลูกแกะกับหมาป่า
- หมากับเงา
ข้อมูลของนิทานอีสป
รวมนิทานอีสปพร้อมภาพประกอบข้อคิดสอนใจ : kalyanamitra.org
ประวัติความเป็นมานิทานอีสป : นิทานอีสป.rakjung.com