ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มยอดนิยมยามเช้า “กาแฟ” คงเป็นชื่อแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึง ด้วยปริมาณคาเฟอีนที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มประเภทอื่น เหมาะกับการปลุกพลังสมองให้ตื่นตัว อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการหลั่งของอะดรีนาลีน เพิ่มความกระปรี้กระเปร่าให้ร่างกาย แต่ประโยชน์ของกาแฟไม่ใช่แค่แก้ง่วง เพราะหากดื่มให้พอเหมาะ ยังช่วยดูแลสุขภาพได้หลายด้านแบบคาดไม่ถึง!
กาแฟดำ VS กาแฟนม
นอกจากจะเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยปลุกสมองให้ตื่นในยามเช้าแล้ว กาแฟยังถูกนำไปปรับสูตรหรือผสมกับเครื่องดื่มอีกหลายเมนูเพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกปาก จนกลายเป็นเครื่องดื่มดับกระหายระหว่างวันยอดนิยม แต่ในความอร่อย เข้มข้น หวานมันของกาแฟที่เกิดจากครีมเทียม นมข้นหวาน และไซรัปรสชาติต่าง ๆ นั้น อุดมไปด้วยไขมันและคอเลสเตอรอล จากที่คิดว่าจะดื่มเพื่อความตื่นตัว ก็อาจจะเป็นการทำลายสุขภาพตัวเองโดยไม่รู้ตัว การดื่มกาแฟดำจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับคนรักสุขภาพ เรียกว่าทั้งสดชื่นและได้รับประโยชน์ของกาแฟแบบเต็ม ๆ โดยไม่ต้องมีแคลอรี่ ไขมัน หรือคอเลสเตอรอลจากน้ำตาลและครีมเทียมมารบกวนเลย
ประโยชน์ของกาแฟ ดีแน่ถ้าดื่มเป็น!
- ลดคอเลสเตอรอล
เหตุผลที่กาแฟสามารถลดคอเลสเตอรอลได้นั้น ก็เพราะในกาแฟมีวิตามินบีรวมชนิดหนึ่งที่ชื่อว่านิโคติน ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดคอเลสเตอรอลในเลือด ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว จึงช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจและภาวะไขมันในเลือดสูงได้
- อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ในกาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติจำพวกฟลาโวนอยด์และกรดอะซิติก สามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์ในร่างกาย ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ และช่วยชะลอวัย ทำให้ผิวพรรณกระชับเต่งตึง ไม่มีริ้วรอยเหี่ยวย่น
- ดีต่อระบบเผาผลาญ
อีกหนึ่งประโยชน์ของกาแฟที่หลายคนไม่เคยรู้ เพราะคาเฟอีนในกาแฟทำให้การทำงานของระบบเผาผลาญดีขึ้น นำไขมันส่วนเกินมาเปลี่ยนเป็นพลังงานในการใช้ชีวิตประจำวัน ช่วยให้กระเพาะอาหารและตับอ่อนผลิตน้ำย่อยได้ดีขึ้น และอย่าลืมเลือกดื่มกาแฟดำ ป้องกันน้ำหนักขึ้นจากครีมเทียมด้วย
- ป้องกันอัลไซเมอร์
กาแฟมีส่วนช่วยให้การทำงานของสมองมีประสิทธิภาพมากขึ้น คิดได้เร็ว มีสมาธิดีขึ้น เพิ่มความสามารถในการจดจำ และช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมน G-CSF ลดความเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์ แก้อาการหลง ๆ ลืม ๆ ตามวัยอย่างได้ผล
ถึงแม้ประโยชน์ของกาแฟจะมีมากมาย แต่ก็อย่าลืมดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ โดยปริมาณคาเฟอีนที่คนทั่วไปสามารถรับได้ต่อวันคือ 400 มิลลิกรัม เทียบเท่ากับการดื่มกาแฟไม่เกิน 1-2 แก้ว เพราะหากร่างกายได้รับคาเฟอีนมากเกินไป อาจทำให้หายใจถี่ หัวใจเต้นเร็ว และมีอาการปวดหัวจนอาจลุกลามเป็นโรคไมเกรนได้