วิตามินซี คงเคยได้ยินว่าหากมีอาการไม่สบาย เป็นหวัด ร่างกายอ่อนแอ หรือเป็นโรคภูมิแพ้ ควรจะรับประทานวิตามินซีเพิ่มมากขึ้น ให้พอเพียงกับความต้องการของร่างกาย โดยปรกติแล้วร่างกายคนเราต้องการวิตามินซีในปริมาณที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับวิถีชีวิตและความแข็งแรงของร่างกาย สำหรับผู้ที่เป็นหวัด โรคภูมิแพ้ ร่างกายอ่อนแอ พักผ่อนไม่เพียงพอ ต้องการบำรุงผิวพรรณ ผู้ป่วยเป็นโรคต้อกระจก ควรได้รับวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม เป็นต้น
เรามาดูความแตกต่างระหว่างวิตามินซีธรรมชาติและวิตามินซีสังเคราะห์
- วิตามินซีธรรมชาติอยู่ในรูปของเกลือ จึงมีสภาพเป็นกรดต่ำๆ ไม่ก่อความระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร ในขณะที่วิตามินซีสังเคราะห์ มีความเป็นกรดสูง
- การดูดซึม วิตามินซีธรรมชาติมีส่วนประกลบอบของไอโอฟลานอยด์ ช่ว่ยให้ร่างกายสามารถดูดซึ่มวิตามินซีไปใช้ได้อย่างเต็มที่ และสามารถป้องกันการถูกทำลายขณะผ่านกระบวนการเผาผลาญอาหารของร่างกายเรา ในขณะที่วิตามินซีสังเคราะห์นั้น ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมได้อย่างเต็มที่ และจะสูญเสียได้ง่ายในกระบวนการอ๊อกซิเดชั่น
- วิตามินซีธรรมชาติมีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินซีสังเคราะห์ ในเรื่องการสร้างโปรตีนคอลลาเจน เพิ่มความแข็งแรงของเส้นเลือดฝอย สร้างภูมิคุ้มกัน ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ช่วยต้านอาการภูมิแพ้ การอักเสษ การติดเชื้อ บรรเทาอาการความดันโลหิตสูง และป้องกันการเกิดต้อกระจกได้
- วิตามินซีธรรมชาตินั้นมักไม่มีอาการพึงประสงค์ เช่น ท้องไส้ปั่นป่วน หรือมีอาการน้อยกว่าวิตามินซีสังเคราะห์ เมื่อรับประทานในปริมาณที่มากกว่าคำแนะนำ
- วิตามินซีสังเคราะห์นั้นจะเกิดปฏิกิริยายาแพ้ในคนที่มีแนวโน้มว่าจะแพ้ง่าย มากกว่าวิตามินซีธรรมชาติ ถึงแม้ว่จะมีโครงสร้างทางเคมีแบบเดียวกันก็ตาม
วิตามินซีที่จำหน่ายอยู่ในตลาดบ้านเรานั้นสามารถแยกได้ 3 แบบ คือ
- แอสคอร์บิคอย่างเดียว เป็นวิตามินซีที่มีราคาถูก และสามารถหาซื้อได้ง่ายมากๆคะ เช่น องค์การเภสัช เป็นวิตามินซีที่คุ้มค่ากับราคา ใช้รักษาอาการขาดวิตามินซีได้ดี
- แบบโลว์ เอซิค (Low acid) คือ การนำวิตามินซีแบบแอสคอร์บิคอย่างเดียวมาทำปฎิกิริยากับสารอื่น ให้ความเป็นกรดลดลง ไม่กัดกระเพาะ มักมีปริมาณยาสูง 500 มิลลิกรัมขึ้นไป เหมาะใช้สำหรับผู้ป่วยที่กำลังพักฟื้น หรือเจ็บป่วย หรือผู้มีความเสี่ยงต่อกาขาดวิตามินซีหรือผู้ที่ต้องการวิตามินซีมากกว่าปกติ
- แบบผสมไบโอฟลาโวนอยด์ มักใช้เป็นอาหารเสริม เป็นวิตามินซีผสม แบบแอสคอร์บิค แบบโลว์ เอซิด และสารไบโอฟลาโวนอยด์
สำหรับการเลือกซื้อวิตามินที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบันควรพิจารณารายละเอียดดังนี้
- ชนิด แหล่งที่มาของวิตามินซี วิตามินซีมีทั้งที่มาจากธรรมชาติได้จากผักและผลไม้ต่างๆ และวิตามินซีสังเคราะห์ ที่ได้จากกระบวนการทางเคมี สามารถเลือกรับประทานได้ทั้งสองแบบ
- รูปแบบวิตามินซี เช่น แบบผง แบบเม็ด แบบเม็ดละลายช้า จากการวิจัยพบว่าการรับประทานวิตามินซีแบบละลายช้า (slow-release preparations) จะดีกว่าวิตามินซีในรูปแบบอื่น เพราะวิตมินซีในทางเดินอาหารน้อยจะทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินซีได้ดี แต่หากรับประทานวิตามินซีต่อเนื่องนานๆ การออกฤทธิ์ของวิตามินซีทุกรูปแบบจะใกล้เคียงกัน ไม่แตกต่าง
- ข้อมูลบนฉลาก ควรระบุผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ส่วนประกอบ ปริมาณวิตามินซีต่อเม็ด วันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุ ต้องชัดเจนและตรวจสอบได้ เพื่อความปลอดภัยและไม่เสี่ยงต่อการซื้อวิตามินซีปลอมมาทาน
ถึงแม้ว่าวิตามินซีจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่หากรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไปก็ไม่ส่งผลต่อนะคะ ยังทำให้สิ้นเปลืองอีกต่างหาก หากร่างกายไม่ต้องการวิตามินซีมากกว่าปกติแล้วหละก็ การรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีคงจะเพียงพอแล้ว และไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับในปริมาณที่เกินความต้องการด้วยคะ
ข้อมูลอ้างอิง
วิตามินซีธรรมชาติ VS วิตามินซีสังเคราะห์: vcharkarn.com
วิตามินสังเคราะห์ VS ธรรมชาติและอนินทรีย์ VS อินทรีย์: อาหารเสริมdd.blogspot.com
สิ่งต้องรู้ก่อนการพิจารณเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “วิตามินซี”: .pharm.tu.ac.th