ในปัจจุบันผู้ประกอบการรู้ไหมว่าเราสามารถใช้ Google เป็นพื้นที่ในการทำการตลาดออนไลน์ผ่านเครื่องมือที่มีชื่อว่า Search ads ได้ โดยข้อดีหลักๆ ของการทำโฆษณาผ่านช่องทางดังกล่าว ได้แก่การเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการอย่างเราสามารถนำสินค้าและการบริการของตัวเองไปเผยแพร่บนเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชมมากถึง 10 ล้านคนต่อวัน นอกเหนือไปจากนี้ ทาง Google เองยังได้ออกแบบเครื่องมือให้บรรดาเจ้าของธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตัวเองได้อย่างตรงจุดอีกด้วย ครบเครื่องแบบนี้ เราเชื่อว่าหลายคนคงอยากจะรู้กันแล้วใช่ไหมล่ะว่าเจ้าเครื่องมือดังกล่าวนั้นมีรายละเอียดทั้งหมดเป็นยังไง? และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
วันนี้เราจึงได้จัดทำบทความขึ้นมาเพื่อพาทุกคนไปทำความเข้าใจกันตั้งแต่เริ่มว่า search ads คืออะไร? ไปจนถึงแนะนำเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ในการทำ search ads ให้ได้ผล
ความหมาย
จริงๆ แล้ว Search ads คือการทำโฆษณาผ่านการประมูลคีย์เวิร์ดเพื่อให้เว็บไซต์ของตัวเองติดอันดับแรกบนหน้าแสดงผลการค้นหา ซึ่งจริงๆ แล้วลักษณะโดยรวมของการทำ search ads นั้นค่อนข้างที่จะใกล้เคียงกับการทำ SEO แต่สิ่งที่ต่างกันคือการทำ Search ads สามารถช่วยให้เรานำเว็บไซต์ตัวเองไปอยู่บนอันดับแรกได้ไวกว่าการทำ SEO โดยแลกกับการที่เราจ่ายเงินให้กับ Google เพื่อซื้อคีย์เวิร์ด
เว็บไซต์ขึ้นหน้าหนึ่งดียังไง?
สาเหตุที่ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายอยากให้เว็บไซต์ของตัวเองติดอันดับหนึ่งบนหน้าแสดงผลการค้นหาเป็นเพราะหากอิงตามพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่ เรามักจะเห็นได้ว่าเว็บไซต์ที่มีคนเข้าไปชมมากที่สุดมักเป็นเว็บที่อยู่อันดับ 1-2 เท่านั้น ซึ่งข้อดีหลักๆ ของการทำ Search ads คือการทำให้เว็บของเราขึ้นไปปรากฏบนตำแหน่งที่คนทั่วไปมักนิยมกดเข้าชมกันมากที่สุด
เทคนิคการทำ search ads ที่ทุกคนควรรู้
สำรวจก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายของเรามักเลือกใช้คีย์เวิร์ดแบบไหน
เนื่องจาก search ads คือการทำโฆษณาที่ให้ความสำคัญกับคีย์เวิร์ดเป็นหลัก ดังนั้นสิ่งที่เราควรจะใส่ใจกันเป็นพิเศษคือการเลือกคีย์เวิร์ดที่ตรงกับวัตถุประสงค์ในการทำโฆษณา เช่น เพิ่มยอดขาย, สร้างการรับรู้ หรือ เพิ่ม Lead และสอดคล้องกับคำหรือประโยคที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเรามักใช้เพื่อค้นหาข้อมูล โดยเราสามารถเข้าไปดูรายละเอียดทั้งหมดนี้ได้ง่ายๆ ผ่าน keyword planner ที่จะช่วยให้เราเห็นภาพว่าคีย์เวิร์ดแต่ละคำนั้นมียอดการค้นหาเท่าไหร่ในหนึ่งเดือน รวมไปถึงแนะนำคีย์เวิร์ดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกันมาให้
เลือกคีย์เวิร์ดที่ไม่กว้างเกินไป
ขั้นตอนต่อมาที่เราควรให้ความสำคัญคือการพยายามกำหนดคีย์เวิร์ดของเราให้แคบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยกตัวอย่างเช่น หากเราทำธุรกิจขายกางเกง เราไม่ควรประมูลคีย์เวิร์ดที่ให้ความหมายกว้างเกินไปอย่างคำว่า กางเกง แต่เราควรกำหนดให้คีย์เวิร์ดมีความเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น เช่น กางเกงว่ายน้ำ หรือกางเกงชกมวย เพราะว่าหากเราเลือกคีย์เวิร์ดที่กว้างเกินไป เราย่อมมีโอกาสที่จะเสียคลิกให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่อาจจะไม่ต้องการซื้อสินค้าของเราได้
และทั้งหมดก็คือรายละเอียดคร่าวๆ ว่าด้วยเรื่อง search ads คืออะไร รวมไปถึงเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ในการทำ search ads ให้ได้ผล
