เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือสมองเพชรสายเลือดกระทิงดุของทัพ “ เรือใบสีฟ้า ” แมนเชสเตอร์ ซิตี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก กลายเป็นกุนซือที่สามารถพาทีมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ เทียบเท่ากับ โชเซ มูรินโญ กุนซือฝีปากกล้าชาวโปรตุเกส
ทัพ “ เรือใบสีฟ้า ” แมนเชสเตอร์ ซิตี ภายใต้การคุมทัพของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เพิ่งจะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศในศึก ยูฟา แชมปเปียนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2020-21 หลังเอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยสกอร์รวม 4 – 2 ซึ่งนี่ถือเป็นการผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศในรายการดังกล่าวเป็นครั้งที่ 8 ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ตลอดเส้นทางการคุมทีมของเขา
ส่งผลให้กุนซือสมองเพชรชาวสเปน กลายเป็นกุนซือที่สามารถพาทีมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศในศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ เทียบเท่ากับ โชเซ มูรินโญ กุนซือฝีปากกล้าชาวโปรตุเกส ที่ปัจจุบันกำลังคุมทัพ “ ไก่เดือยทอง ” ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ คู่แข่งร่วมลีกของ กวาร์ดิโอลา นั่นเอง
โดยทางด้านของ โชเซ มูรินโญ พา 4 ทีม ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศประกอบไปด้วย เอฟซี ปอร์โต, เชลซี, อินเตอร์ มิลาน และ เรอัล มาดริด โดยจำนวนนี้เคยไปไกลถึงการคว้าแชมป์สมัยที่คุม เอฟซี ปอร์โต และ อินเตอร์ มิลาน ขณะที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา พา 3 ทีม ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศประกอบไปด้วย บาร์เซโลนา, บาเยิร์น มิวนิค และ แมนเชสเตอร์ ซิตี ส่วนการพาทีมคว้าแชมป์ เขาเคยทำสำเร็จครั้งเดียวสมัยที่คุม บาร์เซโลนา เมื่อฤดูกาล 2010-11 หรือราว 10 ปีก่อน
