สำหรับสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกรายการใหญ่ถึง 3 รายการ ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการ “ ลูกขนไก่ไทย ” ในรอบ 110 ปีที่จะทำให้กระแสทั่วโลกต่างจับจ้องมาที่ประเทศไทยเกี่ยวกับการกระตุ้นและพัฒนา พร้อมเล็งเห็นความสำคัญกับกีฬาแบดมินตันที่มีศักยภาพในการจัดรายการใหญ่ครั้งนี้ ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่เชื้อไวรัส โควิด-19 ยังไม่สามารถไว้ใจได้ แต่ประเทศไทยก็ยังได้รับความไว้วางใจจาก สหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในเดือนมกราคม 2564 ที่จะถึงนี้
หลังจากที่เชื้อไวรัส โควิด-19 แพร่ระบาดตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา รายการแข่งขันแบดมินตันไม่ว่าจะในระดับภูมิภาคหรือว่าระดับประเทศต่างก็ต้องหดหายไป แต่สำหรับการจัดรายการใหญ่ของไทยครั้งนี้ที่ใช้ระยะเวลาการจัดเพียงแค่ 3 สัปดาห์ ที่มีรายการแข่งขันแต่ละรายการต่อเนื่องพร้อมจบเมื่อเดือนมกราคมกับรายการ “ โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพน 2020 ” ต่อด้วยรายการ “ โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพน 2020 ” และรายการส่งท้าย “ เอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอล 2020 ” ซึ่งทั้ง 3 รายการนี้มีเงินรางวัลรวมกันมากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 350 ล้านบาท เป็นอย่างน้อย
ในส่วนนักแบดมินตันจากทั่วโลกต่างตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เคนโตะ โมโมตะ ชายเดี่ยว มือ 1 ของโลกจากญี่ปุ่น, โจว เทียนเฉิน มือ 2 ของโลกจากไต้หวัน, อันเดรส แอนทอนเซน กับ วิคเตอร์ อเซลเซน มือ 3 และ 4 ของโลกจากเดนมาร์ก, เฉิน หลง มือ 5 ของโลกจากจีน และ แอนโทนี ซินนิซุกะ กินติง มือ 7 ของโลกจากอินโดนีเซีย และนักตบรายอื่น ๆ อีกมากมาย
สำหรับรายการการแข่งขันที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพครั้งนี้คงเป็นที่จับตามองของแฟนแบดมินตันจากทั่วโลกแน่นอนหลังจากที่ได้ระดมนักตบลูกขนไก่ชั้นนำเข้าแข่งขันรายการนี้ไว้อย่างมากมาย