ถือว่าเป็นการเลือกเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เอเชียนเกมส์ 2030 ที่ดุเดือดเป็นอย่างมากหลังจากที่ผู้ท้าชิงระหว่างสองชาติก็คือ “ ริยาด ” ประเทศซาอุดิอาระเบีย กับ “ โดฮา ” ประเทศกาตาร์ คู่อริแห่งตะวันออกกลาง ซึ่งกว่าจะได้รับผลโหวตเจ้าภาพก็ได้มีการเลื่อนการโหวดมาแล้วหลายครั้งหลังจากที่ ซาอุดิอาระเบีย ไม่เห็นด้วยกับการโหวตออนไลน์เนื่องจากพวกเขากลัวแฮกเกอร์ฝ่ายตรงข้ามจะถูกล้วงข้อมูล ซึ่งนั่นจะทำให้พวกเขาเสียประโยชน์ในการแข่งขันลงชิงตำแหน่งเจ้าภาพ เอเชียนเกมส์ ครั้งนี้
นอกจากเรื่องของการชิงเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เอเชียนเกมส์ 2030 ที่ทั้งสองประเทศต่างแย่งชิงเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ก็มีเรื่องความขัดแย้งภายนอกอีกต่างหาก หลังจากที่ทั้งสองประเทศคว่ำบาตรทางด้านเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน จึงทำให้เป็นปัญหาเรื้อรังมายาวนาน และสำหรับการเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เอเชียนเกมส์ ครั้งนี้ก็คงเป็นการวัดศักดิ์ศรีของทั้งสองประเทศอีกด้วย
สำหรับผลการคัดเลือกก็ได้ประกาศเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการประชุมระหว่าง โอซีเอ ที่ประเทศโอมาน และให้ชาติสมาชิกโหวตผ่านระบบออนไลน์ และครั้งนี้ผลโหวตก็ลงมติให้ กาตาร์ ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬา เอเชียนเกมส์ 2030 อย่างเป็นทางการ และประเทศ ซาอุดิอาระเบีย รับช่วงต่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬา เอเชียนเกมส์ ในอีก 4 ปีถัดไป ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกของการจัด เอเชียนเกมส์ ที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกันถึง 2 ครั้งติดต่อกัน
หรือว่าการจัด เอเชียนเกมส์ ที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกันถึง 2 ครั้งติดครั้งนี้จะเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ให้กับทั้งสองประเทศได้ดีขึ้นในอนาคตหลังจากที่ ซาอุดิอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, บาห์เรน และ อียิปต์ ต่างคว่ำบาตรทางการค้ากับ กาตาร์ ตั้งแต่ปี 2017 หลังจากที่สงสัยว่า กาตาร์ ให้การสนับสนุนผู้ก่อการร้ายในภูมิภาคตะวันออก
