อัลมอนด์ (Almond) เป็นพืชตระกูลเดียวกับพรุน เป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ 390-990 เซนติเมตร ส่วนที่เรารับประทานนั้นเป็นส่วนของเมล็ด ที่เอาส่วนที่เป็นเปลือกแข็งๆออกไปแล้ว ในบรรดาถั่วเปลือกแข็งนั้น อัลมอนด์มีสารอาหารมากที่สุด โดยเฉพาะโปรตีนที่สูงถึง 21.5 เปอร์เซ็นต์ ที่ช่วยเรื่องการเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ อัลมอนด์ 1 เม็ด ให้พลังงานสูงถึง 7 แคลอรี่ วิตามินบี6ช่วยให้ระบบการเผาผลาญดียิ่งขึ้นและช่วยเพิ่มกระบวนการสร้างสารสื่อประสาทจึงทำให้ลดอัตราการเกิดโรคพาร์กิมสัน โอเมก้า 3และโอเมก้า 6
อัลมอนด์ ยังช่วยบำรุงประสาท บำรุงสมอง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ การรับประทานอัลมอนด์เป็นประจำจะช่วยลดระดับคอเรสเตอรอลซึ่งเป็นไขมันชนิดเลว แล้วช่วยเพิ่มไขมันชนิดดี (HDL) ลดการอุดตันของไขมันในเส้นเลือด มีผลงานวิจัยพบว่าหากรับประทานอัลมอนด์วันละ 2 หยิบมือจะช่วยลดระดับไขมันชนิดเลวได้ถึง 9.4 % กรดโฟลิกในอัลมอนด์ช่วยในการสลายไขมันที่เกาะอยู่ตามหลอดเลือดดการอักเสบองผนังหลอดเลือด ทำให้ผนังหลอดเลือดมีความยืดหยุ่นดีขึ้น มีผลงานวิจัยระบุว่าหากรับประทานอัลมอนด์สัปดาห์ละ 5 ครั้ง จะช่วยลดการเกิดโรคหัวใจวายได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น
ในเมื่อเรารู้ว่าอัลมอนด์มีประโยชน์มากขนาดไหน เราจึงนำเสนอวิธีการทำนมอัลมอนด์ที่ใครๆหลายคนอาจคิดว่าทำยาก ต้องมีอุปกรณ์พิเศษถึงจะทำนมอัลมอนด์ได้ ไม่อยากอย่างที่คิดคะ มาดูกันเลยคะ
การทำ นมอัลมอนด์ เริ่มด้วยการนำอัลมอนด์ดิบล้างน้ำให้สะอาด 2-3 รอบ แล้วนำมาแช่น้ำในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด แช่น้ำให้ท่วมอัลมอนด์นะคะ นำไปแช่ตู้เย็นสักประมาณ 6-12 ชั่วโมง แต่ไม่ควรเกิน 18 ชั่วโมง หลังจากนั้นนำไปลวกน้ำเดือดจัดๆ อีกครั้งหนึ่ง เป็นการฆ่าเชื้อโรคที่ค้างอยู่ หลังจากนั้นสะเด็ดน้ำให้แห้ง แล้วนำไปปั่นกับน้ำสะอาด กรองด้วยผ้าขาวบางสัก 2-3 ครั้งเพื่อให้มีตะกอนกากน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากน้ำนมอัลมอนด์เข้มข้นมากเกินไป เมื่อนำไปแช่ตู้เย็นแล้วนำมาออกมาดื่มจะทำให้รู้สึกฝืดคอเวลากลืน
เมื่อเราได้น้ำ นมอัลมอนด์ เรียบร้อยแล้ว สามารถดื่มได้ทันที แต่หากใครต้องการปรุงแต่งรสชาติให้ถูกปากมากขึ้นด้วยการเพิ่มความหวาน ไม่ว่าจะเป็นหญ้าหวาน อินทผลัม น้ำตาทรายแดง น้ำตาลทรายขาว น้ำผึ้ง เป็นต้น คุณสามารถปรุงตามรสชาติที่ต้องการได้ แต่ก็ไม่ควรให้มีรสหวานมากจนเกินไป ไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ
สำหรับใครที่ต้องการเก็บน้ำนมอัลมอนด์ไว้รับประทานให้นานยิ่งขึ้น ก็เริ่มจากการทำความสะอาดถั่วอัลมอนด์ให้สะอาดจริงๆ ขจัดสิ่งสกปรกและฆ่าเชื้อโรคที่ติดอยู่ที่เปลือกออกให้หมด และหลังจากที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ให้ใส่ขวดปิดฝาให้มิดชิดใส่ตู้เย็นช่องธรรมดา อุณหภูมิ 2-5 องศาเซลเซียส และควรบรรจุปริมาณที่ดื่มหมดใน 1 ครั้ง อย่าบรรจุมากจนต้องเปิด-ปิดขวดหลายๆครั้ง จะทำให้นมเสียเร็วมากขึ้น
นมอัลมอนด์ ที่ได้สามารถรับประทานสดๆเลยก็ได้ หรือจะแช่เย็นสักครู่ เขย่าก่อนนำมาดื่มก็ฟินน่าดูคะ หรือจะนำน้ำนมอัลมอนด์ไปอุ่นชงกับชา กาแฟ โอวัลติน เพราะนมอัลมอนด์เย็นจะมีเกิดการแยกชั้นของครีมในนมอัลมอนด์ทำให้ไม่ผสมเป็นเนื้อเดียวกันกับกาแฟ
ปัจจุบันเราสามารถหาซื้อถั่วอัลมอนด์ได้สะดวกมากขึ้นทั้งทางห้างสรรพพสินค้าและทางออนไลน์ ควรเลือกอัลมอนด์ที่อยู่ในแพ็คที่สมบูรณ์ ถ้าจะให้ดีควรอยู่ในแพ็คสูญญากาศ ไม่มีเชื้อรา ไม่หมดอายุ ไม่เปียก และไม่ควรจัดเก็บถั่วไว้ในตู้เย็นเพราะอาจทำให้เกิดเชื้อราซึ่งจะผลิตสารอะฟลาท็อกซิ (Aflatoxin) หากมีการสะสมในร่างกายในปริมาณมากๆอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้
ข้อมูลอ้างอิง
ประโยชน์ของอัลมอนด์ สุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพ: maanow.com
นมอัลมอนด์ Icon ของคนรักสุขภาพ: krua.co
นมอัลมอนด์ (Almond Milk): thanop.com
