อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าไตมีของเรามีอยู่ 2 ข้าง มีหน้าที่ในการกรองของเสียออกจากร่างกายทางปัสสาวะ ควบคุมสมดุลของน้ำ เกลือแร่ และสร้างฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมความดันโลหิต และช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงของไขกระดูกอีกด้วย แล้วเมื่อไตเกิดเนื้องอกชนิดร้ายแรงขึ้น ไตจะสูญเสียการทำงาน แล้วร่างกายของเราจะเป็นอย่างไรเมื่อของเสียยังคงคั่งค้างอยู่ในร่างกาย สมดุลของน้ำในร่างกายผิดเพี้ยนไป เราจะเป็นอย่างไร
มะเร็งไตเป็นมะเร็งที่พบได้ไม่บ่อยนักเพียง 2 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับมะเร็งอื่นๆ มะเร็งไตมักพบได้บ่อยในเด็ก เรียกว่า มะเร็งวิมส์หรือมะเร็งไตในเด็ก ซึ่งจะแตกต่างจากมะเร็งไตในผู้ใหญ่นะคะ
มะเร็งไต สาเหตุของการเกิดโรค
มะเร็งไตในผู้ใหญ่มีหลายชนิด แต่เกือบทั้งหมดคือ ชนิดคาร์ซิโนมา และชนิดที่พบได้บ่อยคือชนิดรีนัลเซลล์หรือ อาร์ซีซี (Renal cell carcinoma :RCC) ซึ่งมะเร็งชนิดนี้เป็นมะเร็งของเซลล์เนื้อเยื่อไตที่มีหน้าที่กรองปัสสาวะและสร้างฮอร์โมนต่างๆ และชนิดทรานซิชั่นแนล เซลล์ หรือ ทีซีซี (Transitional cell carcinoma :TCC) ซึ่งเป็นมะเร็งของเซลล์เยื่อเมือกของกรวยไต หรือ เรียกว่า “มะเร็งกรวยไต” เป็นมะเร็งที่มักเกิดร่วมกับมะเร็งกระเพาะปัสสาวะและมะเร็งท่อไต
ปัจจัยที่ก่อให้เกิดมะเร็งไต ที่พบบ่อยได้แก่ การได้รับสารพิษอย่างต่อเนื่องในปริมาณที่สูง เช่น ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันปิโตเลียม แร่ธาตุบางชนิด เช่น แคดเมียม แร่ใยหิน อาจเกิดจากการรับประทานยาแก้ปวดที่มีตัวยา phenacetin และกินฮอร์โมนบางชนิดต่อเนื่องเป็นเวลานาน การสูบบุหรี่ (การสูบุหรี่ตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป และไม่มีก้นกรองบุหรี่) โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคนิ่วในไต และการผิดปกติทางพันธุกรรม
เช่นเดียวกับมะเร็งชนิดอื่นๆที่มะเร็งไตมักไม่แสดงอาการเมื่อแรกเริ่ม หรือเมื่อมีขนาดก้อนเนื้องอกเล็ก โดยทั่วไปประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยจึงพบว่าเป็นโรคมะเร็งไตโดยบังเอิญในการตรวจสุขภาพหรือตวรจร่างกายอย่างอื่น แต่เมื่อใดก็ตามที่ก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก ในผู้ป่วยมะเร็งไตก็จะพบอาการ ปวดหลังเรื้อรัง ปัสสาวะปนเลือด หรือมีสีคล้ายน้ำล้างเนื้อ คลำพบก้อนในช่องท้อง มีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลด โลหิตจาง
มะเร็งไตสามารถแบ่งได้ 4 ระยะ
มะเร็งไตสามารถแบ่งได้ 4 ระยะ เช่นเดียวกับมะเร็งชนิดอื่นๆ คือ ระยะที่1 ก้อนมะเร็งจะอยู่ในไตหรือยู่ในชั้นเนื้อเยื่อกี่ยวพันใต้เยื่อเมือกของกรวยไต มีขนาดไม่เกิน 7 ซม. ระยะที่ 2 ก้อนมะเร็งลุกลามอยู่ในไต มีขนาดใหญ่กว่า 7 ซม.หรือลุกลามเข้าชั้นกล้ามเนื้อของกรวยไต ระยะที่ 3 มะเร็งลามออกนอกไตเข้าเนื้อเยื่อ/ต่อมน้ำเหลือง/อวัยวะที่ติดกับไต หรือลุกลามทะลุกรวยไต และระยะที่ 4 มะเร็งลุกลามมากขึ้นทำให้ต่อมน้ำเหลืองมีขนาดโตกว่า 5 ซม. หรือมีการแพร่กระจายเข้ากระแสโลหิต นำไปสู่ปอดและกระดูก
แนวทางการรักษาโรคมะเร็งไต
การรักษาโรคมะเร็งไตคือการผ่าตัดเอาก้อนเนื้อร้ายออกอันเป็นวิธีเดียวที่ทำให้หายขาดได้สำหรับมะเร็งในระยะที่ 1-3 และหากมีการลุกลามจำเป็นต้องรักษาต่อเนื่องด้วยการฉายรังสี (เป็นการบรรเทาอาการแต่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้) หรือยาเคมีบำบัด (ใช้เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายไปสู่อวัยวะอื่น) หรือการใช้ยากระตุ้นภูมิคุ้มกันกรณีที่มะเร็งแพร่ไปยังอวัยวะอื่นแล้วเท่านั้น หรือใช้ยามุ่งเป้าการรักษา มีอยู่ 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ออกฤทธิ์ยังยั้งการสร้างเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงเซลล์มะเร็ง และกลุ่มยาที่ออฤทธิ์ไปยับยั้งกลไกภายในเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
อย่างไรก็ตามการรักษาได้หายของโรคมะเร็งไตขึ้นอยู่กับระยะของโรค โดยในระยที่ 1-2 มีอัตราการรอดประมาณ 70-80% ระยะที่ 3 ประมาณ 30-50 % ระยะที่4 ประมาณ 0-10% ขึ้นอยู่กับชนิดของเซลล์มะเร็ง การผ่าตัดก้อนมะเร็งออกได้หมดหรือเหลืออยู่มากน้อยเพียงใด อายุและสุขภาพของผู้ป่วยเอง ถึงแม้ว่าในปัจจุบันยังไม่มีการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งไต ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือเมื่อมีอาการดังข้างต้นควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอะไรและทำการรักษาโรคแต่เนิ่นๆคะ และพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆจะช่วยลดโอกาสเกิดโรคนี้ได้นะคะ
ข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติม:
มะเร็งไตโรคภัยที่ไม่คาดคิด : si.mahidol.ac.th
มะเร็งไต : fudacancerthailand.com
รู้ทันมะเร็ง เมื่อไตเป็นมะเร็ง : komchadluek.net