ทราบไหมคะว่าผ้าไหมนั้นมีต้นกำเนิดในประเทศจีนและประเทศอินเดีย จากการขุดพบโบราณวัตถุบ่งชี้ได้ว่าประเทศไทยใช้ผ้าไหมเมื่อ 3,000 ปีก่อน โดยสมัยก่อนมักนิยมทอไว้ใช้ในครอบครัวหรือใช้สำหรับไปงานพิธีต่างๆ ผ้าไหมไทยมาเป็นที่รู้จักเมื่อ นายเจมส์ แฮร์ริสัน วิสสัน ทอมป์สัน หรือ จิม ทอมป์สัน ได้รวบรวมผ้าไหมไว้เป็นจำนวนมากและแสวงหาช่างทอผ้าไหมที่มีฝีมือดีมาทอผ้าไหมไทย จิม ทอมป์สันได้พัฒนาการผลิตและขยายตลาดผ้าไหมไทยสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น จนในปี 2502 นักออกแบบชาวฝรั่งเศลได้ออกแบบ ชุดผ้าไหมไทย และตัดฉลองพระองค์ของสมเด็จพระงานเจ้าสิริกิติ์ครั้งเสร็จเยือนประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ ถือว่าเป็นการเปิดตัวผ้าไหมไทยสู่ตลาดโลกเลยก็ว่าได้คะ
การตัดเย็บชุดผ้าไหมไทย
การตัดชุดผ้าไหมนั้นช่างต้องเข้าใจธรรมชาติของผ้าไหม ไหมบางชนิดลื่นมากนำมาตัดเย็บได้อยากอาจจะต้องใช้กระดาษรองขณะเย็บ การตัดผ้าไหมก็ควรตัดใช้กรรไกรที่คม ไม่มีรอย และควรตัดผ้าไหมที่ละชิ้น ไม่ควรซ้อนทับกันแล้วตัดเนื่องจากผ้าไหมมีความลื่น อาจทำให้ผ้าเสียหายได้ หากต้องการที่กำหนดจุดหรือวาดแพทเทิร์นควรใช้เข็มหมุดกลัดผ้าแทนการใช้ชอล์ค รวมทั้งการวางแพทเทิร์นก็ต้องเข้าใจลวดลาย วางอย่างไรถึงจะสวย และเหมาะสมกับลายของผ้าไหม
สำหรับการสวมใส่ชุดที่ตัดจากผ้าไหมไทยนั้นอาจจะยังไม่แพร่หลายนัก เนื่องจากราคาของผ้าไหมเองที่ค่อนข้างสูงตามคุณภาพของผ้าไหม ยิ่งดีก็ยิ่งราคาแพง การตัดเย็บที่ต้องใช้ความชำนาญเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับผ้าไหม การออกแบบของชุดที่ตัดจากผ้าไหมไทยก็ยังไม่หลากหลายเท่าที่ควร และผู้สวมใสก็มักจะกำจัดอยู่ในกลุ่มข้าราชการ และนักการเมืองเสียส่วนมาก ปัจจัยเหล่านี้ทำใส่ชุดผ้าไหมไทยยังกำจัดอยู่แคบ แต่หากใครที่อยากใส่ชุดผ้าไหมก็จะใช้ผ้าที่เลียนแบบผ้าไหมนำมาตัดชุดแทนคะ
การดูแลรักษาชุดผ้าไหมไทย
เนื่องจากชุดผ้าไหมไทยค่อนข้างมีราคาแพง เกิดความกังวลว่าจะดูแลรักษาได้ไม่เสีย ชุดอาจเสียหายได้นั้น การดูแลชุดผ้าไหมนั้นไม่ยากอย่างที่คิดคะ การซักชุดผ้าไหมไทยนั้นไม่ควรหวงน้ำ ควรซักให้นานสักหน่อยเพื่อกำจัดสารตกค้างอยู่ไม่ให้ออกฤทธิ์ทำลายเส้นไหมให้เสียหายได้ ก่อนใช้สารชนิดไหนกับชุดผ้าไหมควรทำการทดสอบโดยหยดสารนั้นๆลงบนตะเข็บด้านในดูว่าทำให้ผ้าไหมเปลี่ยนสีหรือไม่ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงแสดงว่าสารชนิดนั้นใช้ได้ สารซักล้างที่เหมาะกับผ้าไหมควรมีฤทธิ์เป็นกลางหรือด่างน้อย เมื่อซักก็ไม่ควรขยี้แรงๆ เพียงแค่แกว่งหรือสลัดเบาๆในน้ำจนสะอาด แล้วค่อยๆบีบเอาน้ำออกจากผ้าหมาดก็เพียงพอ ห้ามบิดชุดผ้าไหมเป็นอันขาดและห้ามซักด้วยเครื่องซักผ้าด้วยคะ การตากผ้าไหมควรตากไว้ในร่มหรือต้องการให้ชุดแห้งเร็วก็ใช้พัดลมเป่า และไม่ควรปล่อยให้ผ้าแห้งโดยใช้เวลานานๆเพราะอาจทำให้เกิดรอยด่างที่เกิดจากหยดน้ำที่แห้งได้ ส่วนการรีดชุดผ้าไหมควรรีดขณะผ้าหมาดอยู่ ใช้ความร้อนไม่เกิน 45 องศาเซลเซียส และควรรีดด้านในของชุด อาจจะดูยุ่งยากสักหน่อยแต่หากดูแลอย่างดีก็จะทำให้ชุดผ้าไหมคงความสวยไปอีกนาน
ผ้าไหมเกิดจากเส้นไหมธรรมชาติ จะมีความมันวาว เนื้อผ้าฟูไม่เรียบ อ่อนนุ่ม และมีน้ำหนัก การที่นำมาจัดชุดเพื่อส่วมใสจึงให้ความเบาสบาย และระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี ยิ่งกว่านั้นชุดผ้าไหมไทยยังช่วยเสริมบุคคลิกภาพของผู้ส่วมใสดูภูมิฐาน ดูสง่า น่าเคารพเชื่อถือ และตัวผู้ส่วมใส่เองก็จะเกิดความภูมิใจ ความสุขใจทุกครั้งที่ได้ใส่ชุดที่ตัดจากผ้าไหมไทย ผ้าที่ได้ชื่อว่าเป็นราชินีของเส้นใยจากทั่วโลกเลยนะคะ
ข้อมูลชุดผ้าไหมไทยอื่นๆ
ผ้าไหมไทย : nudcharee33.wordpress.com
การดูแลรักษาผ้าไหม : qsds.go.th
