เครื่องเป่าแอลกอฮอล์ .. ที่ตำรวจใช้ทำงานอย่างไร รู้ไว้ก่อนเจอวัดระดับ

4432

ดึกดื่นคำคืนนักท่องราตรีออกไปเที่ยวกันจำนวนมาก หากใครขับรถไปก็ควรระวังตำรวจเรียกเพื่อขอตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในร่างกาย ใครตรวจแล้วพบว่ามีระดับแอลกอฮอล์เกินกว่ากำหนดคงต้องไปเสียค่าปรับ ขึ้นศาล ตามกระบวนการของตำรวจคะ คงมีหลายคนที่สงสัยว่า เครื่องเป่าแอลกอฮอล์ นี้สามารถวัดระดับแอลกอฮอล์ได้จริง แล้วเครื่องนี้ทำงานอย่างไร

เครื่องเป่าแอลกฮอล์
รูปภาพจาก amazon.com

เครื่องเป่าแอลกอฮอล์ด้วยวิธีการเป่าลมหายใจ สามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภทตามวัตถุประสงค์การใช้งาน คือ

1.เครื่องเป่าแอลกอฮอล์ในเลือดโดยการเป่าลมหายใจแบบตรวจคัดกรอง (screening) เป็นเครื่องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดด้วยวิธีการเป่าลมหายใจเข้าไปในเครื่องวัด เครื่องจะแสดงผลออกมาเป็นตัวอักษรว่าผ่าน (pass)หรือไม่ผ่าน (fail) หรือแสดงผลเป็นตัวเลข

2.เครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์แบบตรวจยืนยันผล (evidential) เป็นเครื่องที่มีการตรวจวัดด้วยวิธีการเป่าลมหายใจเข้าเครื่องเช่นกัน แต่จะแตกต่างกันที่การแสดงผล คือ จะแสดงผลว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เท่าไหร่ โดยมีหน่วยเป็น mg/100 ml เช่น 40 mg/100ml หมายความว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ 40 มิลลิกรัมในเลือด 100 มิลลิลิตร

เครื่องเป่าแอลกอฮอล์จะวัดระดับแอลกฮอล์จากลมหายใจที่ถูกเป่าเข้าไปในเครื่อง เมื่อลมหายใจผ่านเข้าไปในเครื่องเป่าแอลกอฮอล์แล้วตัวตรวจจับจะแปรสภาพสารเคมี สี หรือพลังงานกระแสไฟฟ้า ให้ถูกแปลค่าออกมา โดยอาศัยการคำนวณความสัมพันธ์(ของการสัมประสิทธิ์ในการแปลงค่าปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเป็นปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจ

การทำงานของเครื่องเป่าแอลกอฮอล์

วิธีการเป่าลมเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์นั้นง่ายมากๆคะ เพียงคุณเป่าต่อเนื่อง 3-5 วินาที โดยเป่าให้ตรงช่องเป่า และไม่ควรเป่าแรงเกินไป หรือเบาเกินไป สำหรับผู้ที่รับประทานยาหรือดื่มกาแฟมาก่อนหน้านี้ทำให้มีกลิ่นปาก ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 1 แก้วก่อนทำการเป่าทดสอบ

การวัดระดับแอลกอฮอล์จะให้ข้อมูลที่ถูกต้องก็ต่อเมื่อผู้ใช้ใช้เครื่องได้อย่างถูกต้องและ ผู้เป่าได้ใช้ลมหายใจส่วนลึกของปอดที่สัมผัสกับเส้นเลือดฝอยในปอดเท่านั้น อีกทั้งเครื่องวัดแอลกอฮอล์ในเลือดนี้จำเป็นต้องมีการสอบเทียบอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ ทุกๆ 6 เดือน เนื่องจากเครื่องมีหัววัดแบบเชลล์ไฟฟ้าเคมี ซึ่งคุณภาพของหัววัดจะเสื่อมลงตามระยะเวลาการใช้งาน จึงต้องมีการปรับหัววัดให้ทำงานเที่ยงตรงมีประสิทธิภาพอย่างไรก็ตามก่อนที่ใช้เครื่องเป่าแอลกอฮอล์ควรตรวจเช็คระบบไล่อากาศ ระบบลมเสียก่อน โดยการนำมาลองเป่าสัก 2-3 ครั้ง ก่อนใช้งานจริง จะทำให้เราทราบว่าเครื่องนี้พร้อมใช้งานได้ และนำผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดบริเวณช่องเป่าให้สะอาด ควรตรวจเช็คแบตเตอรี่ว่าอ่อนหรือไม่ จำเป็นต้องเปลี่ยนหรือไม่

สำหรับปริมาณแอลกอฮอล์ที่ถือว่าคุณเมาสุราจะมีค่าเกินกว่า 50 มิลลิกรัม โดยมีบทลงโทษสำหรับคนที่เมาแล้วขับ โดยการจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือาจถูกศาลสั่งคุมประพฤติทำงานรับใช้สังคม และถ้าหากดื่มแล้วขับทำให้ผู้อื่นได้รับบาทเจ็บหรือสูญเสียชีวิตจะมีโทษตั้งแต่จำคุกไม่เกิน 2 ปี-10 ปี ปรับไม่เกิน 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจถูกศาลสั่งเพิกถอนบขับขี่ด้วย ทั้งขึ้นอยู่กับความเสียหายที่เกิดขึ้นคะ

สำหรับเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ที่ทางกรมตำรวจนำมาใช้ตรวจจับผู้ที่ดื่มสุราเกินค่ากำหนดแล้วขับขี่ยานพาหนะนั้น จะมีการตรวจสอบมาตรฐานของเครื่องวัดอยู่เป็นประจำ มีการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพราะเครื่องตรวจวัดระดับแอลกฮอล์ในเลือดนี้จัดเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ประเภทหนึ่ง โดยจะมีการตรวจเทียบเป็นประจำทุกๆ 6 เดือน เพื่อตรวจดูความเสื่อมสภาพของหัววัดที่เป็นเซลล์ไฟฟ้าให้สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง

เครื่องเป่าแอลกอฮอล์ในเลือดนั้นอาจจะสร้างความไม่พึงพอใจสำหรับนักดื่มทั้งหลาย แต่ในทางตรงกันข้ามสามารถช่วยลดจำนวนผู้ที่เมาแล้วขับได้เป็นอย่างดี ลดการสูญเสียทรัพย์สินและชีวิตอีกด้วย

ข้อมูลของเครื่องเป่าแอลกอฮอล์
ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเท่าไหร่ ถึงจะรอดจากเครื่องเป่าแอลกอฮอล์: mekamtob.com
การตรวจวัดแอลกอฮอล์ : sri.cmu.ac.th

Previous articleการเลือกน้ำหอมสำหรับผู้หญิง ..ให้เหมาะกับหมู่เลือดของสาวๆ
Next articleพระเครื่อง .. ประวัติความเป็นมาและเกร็ดความรู้เบื้องต้น