โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรัง รักษาไม่หายขาดเมื่อเป็นแล้วต้องพบแพทย์และต้องกินยาเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวาน ผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและผู้ใหญ่วัยกลางคน อาจไม่สะดวกเรื่องการเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา จึงมีผู้ป่วยหลายๆรายหันมาสนใจการใช้ สมุนไพรลดน้ำตาล ซึ่งเป็นการรักษาแบบธรรมชาติและเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพื่อที่จะกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติสุขเหมือนคนธรรมดาทั่วไป
การใช้ สมุนไพรลดน้ำตาล อาจช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงหรือควบคุมไม่ให้เพิ่มขึ้นได้ แต่ผู้ป่วยก็ต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอตามความเหมาะสมของร่างกายด้วย และรับประทานอาหารที่ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภค เช่น ลดอาหารที่มีแป้ง น้ำตาล และไขมันลง หันมากินผักและผลไม้ที่มีรสหวานน้อยหรือไม่มีรสหวานเลย อีกทั้งสมุนไพรลดน้ำตาลก็สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารรับประทานได้ มีพืชผักที่เป็นสมุนไพรลดน้ำตาลในบ้านเราอยู่มากมายที่ใช้ทำอาหารได้ เช่น อบเชย หญ้าหวาน มะระขี้นก ตำลึง มะรุม ว่านหางจระเข้ เป็นต้น ซึ่งเราควรทานสมุนไพรลดน้ำตาลในรูปแบบของอาหารจะดีกว่าทานสมุนไพรในรูปของยา เพื่อป้องกันสารตกค้างบางอย่างและสเตียรอยด์ ที่อาจจะมีผลต่อตับ ไต ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนขึ้นมาได้
สมุนไพรลดน้ำตาลที่นำมาทำอาหารได้
สำหรับพืชผักพื้นบ้านและสมุนไพรลดน้ำตาล ในทางการแพทย์แผนไทยแนะนำให้ทานพืชผักหรือสมุนไพรที่มีรสขม ซึ่งรสชาติที่เหมาะเป็นยาสำหรับโรคเบาหวาน จากการศึกษาและวิจัยของสถาบันต่างๆ พบว่ามีพืชผักพื้นบ้านของไทยหลายชนิดสามารถใช้เป็นสมุนไพรลดน้ำตาลในเลือดได้ อาทิเช่น
• ข้าว แนะนำให้กิน ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ มีวิตามินบีสูง วิตามินบีช่วยในการเผาผลาญน้ำตาล และในข้าวกล้องมีเส้นใยสูงกว่าข้าวขาวถึง 9 เท่า ช่วยให้อิ่มง่าย ทำให้กินแป้งน้อยลง ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
• กระเจี๊ยบ ใช้ผลอ่อนมาลวกน้ำร้อน รับประทานกับน้ำพริก หรือนำผลแห้งมาบดเป็นผงชงกับน้ำต้มสุก รับประทานช่วยรักษาโรคเบาหวานและโรคกระเพาะ
• เตยหอม เป็นพืชที่ใช้คู่ครัวไทยมาตลอด สามารถใช้เป็นสมุนไพรลดน้ำตาลได้ คนไทยโบราณใช้รักษาเบาหวานมานานแล้ว แต่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมาก วิธีใช้ นำรากเตยหอมมาล้างให้สะอาด หั่นเป็นท่อนสั้นๆ ประมาณ 1ขีด ต้มกับน้ำสะอาด 1 ลิตร เมื่อเดือด แล้วเคี่ยวต่ออีกสักพักประมาณ 15-20 นาที ดื่มวันละ 3 มื้อ ครั้งละประมาณครึ่งแก้ว ถ้าให้ได้ผลดีควรดื่มต่อเนื่องประมาณ 1 เดือนเป็นอย่างน้อย
• กระเพรา นำมาปรุงอาหารได้หลายอย่าง หรือนำใบกระเพรามาตากแห้ง แล้วชงเป็นชาดื่มแทนน้ำ
• กะหล่ำปลี นำมาปรุงเป็นอาหารรับประทานได้มากมาย
• ขิง ใช้เหง้าขิงแก่ มาคั้นให้ได้น้ำขิงสดครึ่งถ้วย นำไปต้มกับน้ำเปล่า 2 ถ้วย ดื่มวันละ 3 เวลา สามารถเติมเกลือหรือมะนาวเพื่อเพิ่มรสชาติได้
• คื่นไฉ่ นำมาผัดหรือต้มซุปเป็นอาหารได้ หรือนำมาต้มดื่มก็ได้ ใช้ทั้งต้น ก้าน และใบ ประมาณ 1 กำมือ ต้มกับน้ำสะอาด หรือคั้นเป็นน้ำสมุนไพร ดื่มก่อนอาหาร เช้า-เย็น
• ชะพลู ใช้ชะพลูสดทั้ง 5 (ส่วนต้นจนถึงราก) จำนวน 7 ต้น ล้างให้สะอาด แล้วนำไปต้มกับน้ำสะอาด ใส่น้ำพอท่วมใบชะพลูเมื่อเดือดแล้วต้มต่ออีกสักพัก แล้วกรองเอาน้ำมาดื่มแบบดื่มน้ำชา
• ลูกเดือย นำลูกเดือยมาต้มกินเปล่าๆ กินเป็นอาหารว่าง หรือจะทำเป็นน้ำลูกเดือย หรือนำมาหุงกินกับข้าวก็ได้
• ผักเชียงดา นำมาปรุงเป็นอาหาร โดยใช้ต้นและใบในการทำอาหาร
• ผักกาดหอม นำมาปรุงอาหารได้ทั้งต้นและใบ หรือกินสดทำเป็นสลัด ยำ หรือกินแกล้มกับอาหารอื่นๆได้
• ผักคะน้า นำทั้งต้นและใบมาทำอาหารได้มากมายหลายอย่าง
จากงานศึกษาวิจัยของสถาบันและแหล่งข้อมูลต่างๆทั้งของไทยและต่างประเทศ ซึ่งทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ทำการรวบรวมข้อมูล พบว่ามีพืชสมุนไพรถึง 54 ชนิด ที่สามารถใช้เป็นสมุนไพรลดน้ำตาลในเลือดได้ จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการรักษาแบบธรรมชาติสำหรับคนที่เป็นเบาหวาน โดยไม่ต้องพึ่งยาหรือการฉีดอินซูลินเข้าร่างกาย
ข้อมูลที่เกี่ยวกับสมุนไพรลดน้ำตาล
6ผักสมุนไพรช่วยลดเบาหวาน : komchadluek.net
สมุนไพรคู่ใจผู้ป่วยเบาหวาน : abhaiherb.com
สมุนไพร150ชนิดช่วยผู้ป่วยโรคเบาหวาน : www.gotoknow.org
