ถือเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในวงการกีฬาเมืองไทย ณ เวลานี้สำหรับทีมคาราเต้ ทีมชาติไทย ที่ได้ติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ทั้งทีมหลังจากที่ได้เข้าแข่งขันในรายการ ชิงแชมป์เอเชีย 2020 ณ ประเทศคาซัคสถาน
โดยเมื่อไม่นานมานี้ ทีมงานและนักกีฬาคาราเต้ทีมชาติไทย รวมไปถึงผู้ฝึกสอนทั้งหมด ได้เดินทางกลับจากประเทศคาซัคสถานมาถึงประเทศไทย และทุกคนต้องถูกกักตัวมาจากถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม หลายคนไม่ได้มีอาการที่รุนแรงและน่าเป็นห่วงมากนัก พบแค่เพียงว่าเป็นไข้หวัด และลิ้นเริ่มไม่รับรส รวมถึงจมูกเริ่มไม่ได้กลิ่น ทั้งนี้ทุกคนกำลังเข้ารักษาตามอาการ เช่นการกินยาลดไข้และพักผ่อนให้เพียงพอ อีกทั้งยังได้รับการฉีดวัคซีนในเบื้องต้นครบโดสแล้ว
โดยเมื่อไม่นานมานี้ โค้ชปุ้ย ผู้ฝึกสอนคาราเต้ทีมชาติไทย ได้เปิดเผยว่าสาเหตุทั้งหมดเกิดจากเจ้าภาพคาซัคสถาน ที่จัดการการแข่งขันในครั้งนี้อย่างละหลวมไม่ได้มีการคัดกรอง ผู้ติดเชื้อไวรัสอย่างแท้จริง
อีกทั้งนักกีฬาที่เข้าแข่งขัน ก็ไม่ได้มีการตรวจเพิ่ม ในรอบอื่นๆ ยิ่ง นักกีฬาเหล่านั้นจะเข้ารอบลึกมากแค่ไหนก็ไม่มีการตรวจสอบ
รวมไปถึงบรรยากาศในสนามแข่งขันที่แออัดไม่ถ่ายเท ไม่มีระยะห่างทำให้ บุคลากรทุกคนติดเชื้อ
ล่าสุด โค้ช ปุ้ย ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ประเทศต่าง ๆ ที่ได้เข้าร่วมแข่ง ก็ได้ติดเชื้อทุกประเทศเช่นกัน จากการจัดการที่หละหลวมในครั้งนี้
“ได้ถามไปยังประเทศต่าง ๆ ว่าตรวจเจอเชื้อโควิดหรือไม่ ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่าติดเชื้อทุกประเทศที่เดินทางไปแข่งคาราเต้ชิงแชมป์เอเชียที่คาซัคสถาน โดยเฉพาะญี่ปุ่น คูเวต ที่ติดยกทีมแบบทีมชาติไทย ซึ่งตอนนี้เชื้อโควิดที่ทัพนักกีฬาไทยได้รับกำลังอยู่ในช่วงตรวจสอบว่า เป็นสายพันธุ์โอไมครอนหรือไม่ เพราะสายพันธุ์นี้แพร่กระจายง่ายมาก แต่ก็ยังยืนยันว่า ตอนนี้ทัพคาราเต้ทีมชาติไทยยังไม่มีใครที่อาการน่าเป็นห่วง”
