วิตามินซี..จากธรรมชาติ และวิตามินซี..สังเคราะห์ต่างกันหรือไม่

1635

วิตามินซี คงเคยได้ยินว่าหากมีอาการไม่สบาย เป็นหวัด ร่างกายอ่อนแอ หรือเป็นโรคภูมิแพ้ ควรจะรับประทานวิตามินซีเพิ่มมากขึ้น ให้พอเพียงกับความต้องการของร่างกาย โดยปรกติแล้วร่างกายคนเราต้องการวิตามินซีในปริมาณที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับวิถีชีวิตและความแข็งแรงของร่างกาย สำหรับผู้ที่เป็นหวัด โรคภูมิแพ้ ร่างกายอ่อนแอ พักผ่อนไม่เพียงพอ ต้องการบำรุงผิวพรรณ ผู้ป่วยเป็นโรคต้อกระจก ควรได้รับวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม  เป็นต้น

วิตามินซี

เรามาดูความแตกต่างระหว่างวิตามินซีธรรมชาติและวิตามินซีสังเคราะห์

  1. วิตามินซีธรรมชาติอยู่ในรูปของเกลือ จึงมีสภาพเป็นกรดต่ำๆ ไม่ก่อความระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร ในขณะที่วิตามินซีสังเคราะห์ มีความเป็นกรดสูง
  2. การดูดซึม วิตามินซีธรรมชาติมีส่วนประกลบอบของไอโอฟลานอยด์ ช่ว่ยให้ร่างกายสามารถดูดซึ่มวิตามินซีไปใช้ได้อย่างเต็มที่ และสามารถป้องกันการถูกทำลายขณะผ่านกระบวนการเผาผลาญอาหารของร่างกายเรา ในขณะที่วิตามินซีสังเคราะห์นั้น ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมได้อย่างเต็มที่ และจะสูญเสียได้ง่ายในกระบวนการอ๊อกซิเดชั่น
  3. วิตามินซีธรรมชาติมีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินซีสังเคราะห์ ในเรื่องการสร้างโปรตีนคอลลาเจน เพิ่มความแข็งแรงของเส้นเลือดฝอย สร้างภูมิคุ้มกัน ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ช่วยต้านอาการภูมิแพ้ การอักเสษ การติดเชื้อ บรรเทาอาการความดันโลหิตสูง และป้องกันการเกิดต้อกระจกได้
  4. วิตามินซีธรรมชาตินั้นมักไม่มีอาการพึงประสงค์ เช่น ท้องไส้ปั่นป่วน หรือมีอาการน้อยกว่าวิตามินซีสังเคราะห์ เมื่อรับประทานในปริมาณที่มากกว่าคำแนะนำ
  5. วิตามินซีสังเคราะห์นั้นจะเกิดปฏิกิริยายาแพ้ในคนที่มีแนวโน้มว่าจะแพ้ง่าย มากกว่าวิตามินซีธรรมชาติ ถึงแม้ว่จะมีโครงสร้างทางเคมีแบบเดียวกันก็ตาม

วิตามินซีที่จำหน่ายอยู่ในตลาดบ้านเรานั้นสามารถแยกได้ 3 แบบ คือ

  1. แอสคอร์บิคอย่างเดียว เป็นวิตามินซีที่มีราคาถูก และสามารถหาซื้อได้ง่ายมากๆคะ เช่น องค์การเภสัช เป็นวิตามินซีที่คุ้มค่ากับราคา ใช้รักษาอาการขาดวิตามินซีได้ดี
  2. แบบโลว์ เอซิค (Low acid) คือ การนำวิตามินซีแบบแอสคอร์บิคอย่างเดียวมาทำปฎิกิริยากับสารอื่น ให้ความเป็นกรดลดลง ไม่กัดกระเพาะ มักมีปริมาณยาสูง 500 มิลลิกรัมขึ้นไป เหมาะใช้สำหรับผู้ป่วยที่กำลังพักฟื้น หรือเจ็บป่วย หรือผู้มีความเสี่ยงต่อกาขาดวิตามินซีหรือผู้ที่ต้องการวิตามินซีมากกว่าปกติ
  3. แบบผสมไบโอฟลาโวนอยด์ มักใช้เป็นอาหารเสริม เป็นวิตามินซีผสม แบบแอสคอร์บิค แบบโลว์ เอซิด และสารไบโอฟลาโวนอยด์

สำหรับการเลือกซื้อวิตามินที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบันควรพิจารณารายละเอียดดังนี้

  1. ชนิด แหล่งที่มาของวิตามินซี วิตามินซีมีทั้งที่มาจากธรรมชาติได้จากผักและผลไม้ต่างๆ และวิตามินซีสังเคราะห์ ที่ได้จากกระบวนการทางเคมี สามารถเลือกรับประทานได้ทั้งสองแบบ
  2. รูปแบบวิตามินซี เช่น แบบผง แบบเม็ด แบบเม็ดละลายช้า จากการวิจัยพบว่าการรับประทานวิตามินซีแบบละลายช้า (slow-release preparations) จะดีกว่าวิตามินซีในรูปแบบอื่น เพราะวิตมินซีในทางเดินอาหารน้อยจะทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินซีได้ดี  แต่หากรับประทานวิตามินซีต่อเนื่องนานๆ การออกฤทธิ์ของวิตามินซีทุกรูปแบบจะใกล้เคียงกัน ไม่แตกต่าง
  3. ข้อมูลบนฉลาก ควรระบุผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ส่วนประกอบ ปริมาณวิตามินซีต่อเม็ด วันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุ ต้องชัดเจนและตรวจสอบได้ เพื่อความปลอดภัยและไม่เสี่ยงต่อการซื้อวิตามินซีปลอมมาทาน

ถึงแม้ว่าวิตามินซีจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่หากรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไปก็ไม่ส่งผลต่อนะคะ ยังทำให้สิ้นเปลืองอีกต่างหาก หากร่างกายไม่ต้องการวิตามินซีมากกว่าปกติแล้วหละก็ การรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีคงจะเพียงพอแล้ว และไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับในปริมาณที่เกินความต้องการด้วยคะ

ข้อมูลอ้างอิง

วิตามินซีธรรมชาติ VS วิตามินซีสังเคราะห์: vcharkarn.com
วิตามินสังเคราะห์ VS ธรรมชาติและอนินทรีย์ VS อินทรีย์: อาหารเสริมdd.blogspot.com
สิ่งต้องรู้ก่อนการพิจารณเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “วิตามินซี”: .pharm.tu.ac.th

Previous article❝ อาหารเจ ❞ กับความเป็นมาที่ต้องรู้
Next articleครีมกันแดด…ใช้เถอะขอร้อง