เลือดของมนุษย์มีส่วนประกอบ คือ เซลล์เม็ดเลือดแดง (Red Blood Cells) เซลล์เม็ดเลือดขาว (White Blood Cells) เกล็ดเลือด (Platelets) และน้ำเลือด (Plasma) ด้วยความแตกต่างของเลือดที่นำมาระบุเป็นกรุ๊ปเลือดจะดูจากสาร 2 ชนิด คือ แอนตี้บอดี้ (Antibodies) และ แอนติเจน (Antigens) ในเลือด …
โดยแอนตี้บอดี้มีอยู่ในน้ำเลือดมีหน้าที่ป้องกันและต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย อย่างเชื้อโรค ส่วนแอนติเจนคือโมเลกุลของโปรตีนที่พบอยู่บริเวณผิวหนังด้านนอกของเซลล์เม็ดเลือดแดงนั่นเอง ความแตกต่างของแอนติเจนในแต่ละคนจะถูกถ่ายทอดมาทางพันธุกรรมโดยหากพ่อหรือแม่มีกรุ๊ปเลือดใดลูกจะมีกรุ๊ปเลือดเหมือนพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่ง
การแบ่ง กรุ๊ปเลือด (Blood Type)
เราสามารถแบ่ง กรุ๊ปเลือด (Blood Type) ได้ตามระบบ 2 ระบบใหญ่ได้แก่
1. ระบบ ABO เป็นระบบที่นิยมใช้มากที่สุดโดยแบ่งกรุ๊บเลือดออกเป็น 4 ชนิด คือ -กรุ๊ปเลือด A คือกรุ๊ปเลือดที่มีแอนติเจนชนิดเอ (A Antigens) ที่เซลล์เม็ดเลือดแดงและมีสารแอนตีบอดีชนิด แอนตี B (Anti-B) ในพลาสมา
- กรุ๊ปเลือด B คือกรุ๊ปเลือดที่มีแอนติเจนชนิดบี (B Antigens) ที่เซลล์เม็ดเลือดแดง และมีสารแอนตีบอดีชนิด แอนตี-เอ (Anti-A)ในพลาสมา
- กรุ๊ปเลือด O คือกรุ๊ปเลือดที่ไม่มีแอนติเจนแต่มีแอนตีบอดีทั้งสองชนิดทั้ง Anti A และ Anti B ในพลาสมา
- กรุ๊ปเลือด AB คือกรุ๊ปเลือดที่มีแอนติเจนทั้งชนิด A และ B แต่ไม่มีแอนติบอดีชนิด A และ B ในพลาสมา
2. ระบบอาร์เอช (Rh System) ในบางกรณีเซลล์เม็ดเลือดแดงอาจจะมีแอนติเจนชนิดอื่นร่วมด้วย เช่น แอนติเจ ชนิดอาร์เอชดี (RhD Antigens) แบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ
- อาร์เอชบวก(Rh Positive – Rh+) ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือดดังกล่าวจะมีแอนติเจนชนิดอาร์เอช (Rh Antigens) และสามารถรับเลือดได้ทั้งชนิดอาร์เอชบวก และ อาร์เอชลบ งซึ่คนไทยส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ปเลือดประเภทนี้
- อาร์เอชลบ(Rh Negative – Rh-) ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือดนี้จะไม่มีแอนติเจนชนิดอาร์เอช ที่เซลล์เม็ดเลือดแดง และสามารถรับเลือดได้เพียงชนิดอาร์เอชลบเท่านั้น
กรุ๊ปเลือด แบ่งออกเป็น 8 กรุ๊ปดังนี้
- เอ อาร์เอชบวก(A+)
- เอ อาร์เอชลบ (A-)
- บี อาร์เอชบวก (B+)
- บี อาร์เอชลบ (B-)
- โอ อาร์เอชบวก (O+)
- โอ อาร์เอชลบ (O-)
- เอบี อาร์เอชบวก (AB+)
- เอบี อาร์เอชลบ (AB-)
กรุ๊ปเลือดโอ อาร์เอชลบ เป็นกรุ๊ปเลือดที่ปลอดภัยสำหรับทุกกรุ๊ปเลือดเพราะเข้าได้กับทุกกรุ๊ปเลือดจึงมักถูกใช้ในกรณีฉุกเฉิน เมื่อแพทย์ไม่ทราบกรุ๊ปเลือดของผู้ป่วย
หากเราจะพูดถึงเรื่องกรุ๊ปเลือดของตัวเองจะมีความจำเป็นยามเราเจ็บป่วย หากเราต้องการบริจาคเลือด รับบริจาคเลือด บริจาคอวัยวะ เราจำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายเลือดระหว่างการผ่าตัด หรือการเข้ารับการปลูกถ่ายอวัยวะ หากเราไม่ทราบกรุ๊ปเลือดหรือแจ้งกรุ๊ปเลือดผิดอาจส่งอันตรายต่อตนเองได้
รับเลือดผิดกรุ๊ปจะเป็นอย่างไร? มีอันตรายไหม?
หากเรารับเลือดผิดกรุ๊ปร่างกายของเราจะทำปฏิกิริยาต่อต้านเลือด โดยจะทำลายเม็ดเลือดที่เข้าไปใหม่ เม็ดเลือดจะแตกและตกตระกอนในไต ทำให้เกิดไตวาย มีอาการไข้ขึ้นสูง ปวดบริเวณที่ให้เลือด ปวดหลัง ปัสสาวะเป็นสีน้ำโค้ก และอาจถึงขั้นนเสียชีวิตได้ รับเลือดผิดกรุ๊ปจึงอันตรายมาก
โดยปกติแล้วผู้ที่เกิดมาจะต้องมีกรุ๊ปเลือดของพ่อแม่คนใดคนหนึ่งมากถึง 99 เปอร์เซ็นต์และก็ยังมีโอกาสที่กรุ๊ปเลือดของลูกจะไม่ตรงกับพ่อแม่เลยมีเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็เกิดขึ้นได้ แต่หากลูกกรุ๊ปเลือดที่แตกต่างไปจากพ่อแม่ที่กล่าวมานั่นหมายความว่าเด็กมีหมู่เลือดพิเศษที่เรียกว่า O-bombay จะไม่แสดงแอนติเจน H แต่มีแอนติบอดีเอ และแอนติบอดีบี เหมือนหมู่เลือดกรุ๊ปโอคะ
คุณสามารถตรวจกรุ๊ปเลือดของตนเองได้ตามโรงพยาบาลต่างๆ ควรรู้ไว้ดีที่สุดคะ
ข้อมูลอ้างอิง
ไขความลับเลือดเรื่องกรุ๊ปเลือด: pobpad.com
ลูกในท้องเลือดกรุ๊ปอะไรอยากรู้คลิกเลย: mamaexpert.com
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรตรวจกรุ๊ปเลือด Rh- ป้องกันการแท้งลูก : thelovelyair.com