วิธีเลือกรองเท้าวิ่ง เลือกซื้ออย่างไรให้เหมาะกับตนเอง

1162

เลือกรองเท้าวิ่งให้ได้ดีต้องมีข้อมูล … การวิ่งกลายเป็นกีฬาที่ใครหลายๆคนเริ่มให้ความสนใจ ไม่ว่าจะต้องการมีสุขภาพที่แข็งแรงหรืออยากจะอินเทรนด์กับเขา ก็ออกมาวิ่งกันทั้งนั้น การวิ่งจะช่วยเสริมสร้งกล้ามเนื้อ ช่วยให้หัวใจเต้นแรงขึ้น ช่วยให้เลือดสูบฉีดได้ดี และยังช่วยในการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย บางคนถึงกับน้ำหนักลดลงเลยนะคะ การวิ่งจัดว่าเป็นกีฬาที่ใช้อุปกรณ์น้อยมาก เพียงคุณมีรองเท้าวิ่งสักคู่ก็ออกวิ่งได้แล้วคะ

รองเท้าวิ่ง
ภาพจาก pixabay.com

หลายคนเลือกรองเท้าผ้าใบทั่วไปๆ มาใช้กับการวิ่ง นั่นยังไม่ถูกต้องค่ะ สิ่งที่จะตามมาคือการบาดเจ็บของฝ่าเท้า ข้อเท้าและหัวเข่า วันนี้เราจึงมีหลักการเลือกรองเท้าวิ่งมาฝากคะ เพื่อให้ได้รองเท้าวิ่งที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด

พื้นสำหรับวิ่ง

เนื่องจากว่าการวิ่งนั้นมีด้วยกันหลายแบบ ลู่วิ่งหรือเส้นทางก็มีด้วยกันหลักๆอยู่  2 แบบ คือ แบบพื้นเรียบและแบบพื้นดิน รองเท้าจะได้รับการดีไซด์ที่จากกัน เพราะช่วยให้นักวิ่งสามารถใส่แล้วสบาย ไม่เกิดอาการบาดเจ็บ

ระยะเวลาในการวิ่ง

การวิ่งคือการที่ข้อเท้าของเราต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา และต้องรองรับแรงกด แรงกระแทกที่เกิดขึ้นตลอดทาง ดังนั้นก่อนจะเลือกซื้อรองเท้าวิ่งต้องถามตัวเองก่อนว่าคุณจะนำไปใช้วิ่งไกล-ใกล้เพียง เพราะรองเท้าวิ่งระยะสั้นๆ จะได้รับการออกแบบมาให้เหมาะกับการวิ่งจ๊อกกิ้ง รองเท้าจะทำหน้าที่ประคองข้อเท้าและควบคุมจังหวัดการวิ่งทางโค้ง ส่วนรองเท้าวิ่งระยะยาว อย่าง วิ่งมินิมาราธอน วิ่งมาราธอน รองเท้าจะออกแบบมาให้พยุงน้ำหนักที่กดทับซ้ำๆ เป็นเวลานานๆ หรือที่เรียกว่า Long-distance track shoes จะช่วยทำให้ไม่เจ็บข้อเท้าระหว่างการวิ่ง

ลักษณะการวิ่ง

นอกจากที่เราจะเลือกรองเท้าให้เหมาะสมกับพื้นผิวที่เราจะวิ่ง และระยะทางที่เราจะวิ่งแล้ว เรายังต้องเข้าใจสรีระของเท้าของเราเองด้วย ซึ่งหากเราสังเกตรองเท้าวิ่งที่มีขายอยู่ในปัจจุบันนี้ก็จะพบว่าจะมีการดีไซด์รองเท้าวิ่งให้เหมาะกับรูปเท้าหรือการลงของฝ่าเท้าขณะวิ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บขณะวิ่งและอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง ดังนั้นคุณจำเป็นต้องสังเกตการลงฝ่าเท้าหรือการเคลื่อนที่ของเท้าขณะวิ่ง หรือที่เรียกว่า “Pronation” ซึ่งจะมีด้วยกัน 4 ประเภท ได้แก่

  • Underpronation เป็นลักษณะการลงฝ่าเท้าโดยเริ่มจากการทิ้งน้ำหนักที่ส้นเท้า ผ่านสันฝ่าเท้าด้านนอก และไปที่ปลายเท้า
  • Neutral เป็นลักษณะการทิ้งน้ำหนักที่ไล่จากส้นเท้าผ่านฝ่าเท้าไปถึงปลายเท้า เหมาะกับรองเท้าแบบ Cushioned Running Shoes ซึ่งจะรองรับการกระแทกตรงบริเวณกลางฝ่าเท้า จะช่วยดูดซับแรงที่เกิดบริเวรข้อเท้าขณะที่คุณกำลังวิ่ง
  • Overpronation เป็นลักษณะการลงฝ่าเท้า โดยเริ่มทิ้งน้ำหนักที่ส้นเท้า ผ่านสันฝ่าเท้าด้านใน และไปที่ปลายเท้า ซึ่งจะเหมาะกับรองเท้าวิ่งแบบ Motion Control Running Shoes เป็นรองเท้าที่ได้รับการออกแบบให้ดูซับแรงกระแทกที่เกิดขึ้นระหว่างการวิ่ง รองเท้าแบบนี้จะมีความทนทานสูง น้ำหนักไม่เบานัก
  • Severe Overpronation เป็นลักษณะการลงฝ่าเท้าแบบ Overpronation แต่มีเป็นการวิ่งเพื่อเร่งความเร็วและผ่อนน้ำหนักเป็นจังหวะสั้นๆ การวิ่งแบบนี้จึงมีแรงกระแทกมากกว่าแบบ Overpronation

ทุกวันนี้รองเท้ายวิ่งรุ่นใหม่ๆ จะได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์นักวิ่งมากยิ่งขึ้น เช่น มีน้ำหนักเบามาก รับแรงกระแทกได้ดี ทนทาน รวมทั้งดีไซด์ของรองเท้าวิ่งเองก็ต้องมีความความสวยงาม ทันสมัย ขึ้น ทำให้รองเท้าวิ่งสามารถนำมาใส่ในชีวิตประจำวันได้เลยคะ ทำให้ผู้ซื้ออย่างเราเกิดความรู้สึกคุ้มค่าที่จะจ่ายเงินแพงกับรองเท้าวิ่งสักคู่ การวิ่งเป็นการออกกำลังที่ลงทุนไม่มากนะคะ แต่คุณจะได้รับสุขภาพดีๆกลับมาอย่างแน่นอน

ข้อมูลเพิ่มเติม: ช้างศึกสโตร์ จำหน่ายชุดกีฬาออนไลน์

Previous articleวิธีลดต้นขา ปัญหาต้นขาใหญ่แก้ได้แบบรวดเร็วทันใจ
Next article3 สิ่งที่จะได้รับจากการเรียน Design Thinking ในการทำงาน