วิธีลดต้นขา ปัญหาต้นขาใหญ่แก้ได้แบบรวดเร็วทันใจ

342

ต้นขาลดได้ดั่งใจ … ปัญหาต้นขาใหญ่ ใส่อะไรก็ไม่ค่อยสวย ทำให้สาวๆส่วนมากอยากจะกำจัดไขมันที่สะสมอยู่ออกไปให้เร็วที่สุด

วิธีลดต้นขา
ภาพจาก pixabay.com

แค่ขาเรียวสวยก็ทำให้เราดูดีได้แล้ว แต่งอะไร ใส่อะไรก็สวย การที่สาวๆมีต้นขาเรียวสวยไม่ใหญ่น่าเกลียดจึงเป็นความใฝ่ฝันของสาวๆ หลายๆ คน วันนี้เรามีวิธีลดต้นขาแบบเร็วทันใจ และเห็นผลมาฝากคะ

Coolsculping

เป็นการนำความเย็นในระดับจุดเยือกแข็งเข้าไปยังใต้ชั้นผิวหนังเข้าสู่ชั้นไขมันโดยไม่ทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อส่วนอื่นๆ การใช้วิธี Coolsculping ที่สามารถดูดไขมันได้ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ต่อการทำแต่ละครั้ง การทำรักษาด้วยวิธีนี้ผู้เข้ากันรักษาไม่จำเป็นต้องพักฟื้นสามารถขับออกไปทำงานออกกำลังกายได้ตามปกติสามารถเห็นผลได้ชัดเจนในระยะเวลา 2 เดือน

คาร์บอกซี่ (Carboxy Therapy)

เป็นการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง โดยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะไปกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายนำออกซิเจนเข้าสู่ชั้นไขมันทำปฏิกิริยาเร่งสลายไขมันให้กลายเป็นอุณหภูมิความร้อน อัตราการปล่อยก๊าซที่อยู่ที่ประมาณ 60-150 ซีซี/นาที ขึ้นอยู่กับความสามารถทนต่อความเจ็บปวดของแต่ละคน  ร่างกายจะรู้สึกแสบ ยุบยิบ อย่างไรก็ตามวิธีนี้ก็จะมีข้อจำกัดหาผู้ที่ต้องการรักษามีดัชนีมวลกายหรือ BMI ตั้งแต่ 40 ขึ้นไป จะไม่ได้ผลเพราะมีจำนวนไขมันและเซลลูไลท์มากจนเกินไป

เครื่อง RF หรือคลื่นวิทยุ (Radio Frequency)

ทำงานโดยการนวดพร้อมไฟพลังงานคลื่นวิทยุในรูปของกระแสไฟฟ้าอ่อนๆที่สามารถผ่านทะลุชั้นผิวด้านบนเพื่อไปเพิ่มอุณหภูมิของผิวหนังในชั้นลึกลงไปจะช่วยกระชับสัดส่วนและสลายไขมันเซลลูไลท์บริเวณต้นขาที่ทำการนวดได้

การดูดไขมัน (Liposuction)

เป็นการดูดไขมันออกมาตามท่อ ทำให้คนไข้เสียเลือดและน้ำเหลือง หลังจากการดูดไขมันจะต้องพักฟื้นอย่างน้อย 2 สัปดาห์เพราะมีรอยฟกช้ำ ในบางรายอาจจะมีอาการผิวหนังเป็นคลื่นหรือไม่เรียบเพราะผิวที่เคยมีไขมันกลายเป็นโพรงเนื่องจากไขมันออกไปผิวตึงหย่อนคล้อย ปัจจุบันมีวิธีดูดไขมันที่นิยมอยู่ 2 แบบคือ

  • แบบ Vaser คือการใช้เครื่องมือที่ใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์  โดยแพทย์จะทำการฉีดน้ำเกลือที่มีส่วนผสมของยาชาไปยังบริเวณต้นขา หลังจากนั้นจะสอดเครื่องมือเข้าไปใต้ผิวหนังและปล่อยคลื่นอัลตร้าซาวด์โดยผ่านหัวเข็มเพื่อเข้าไปย่อยไขมันให้อ่อนนิ่มและเล็กมากจนละลายออกมาปนอยู่ในน้ำเกลือที่เราฉีดเข้าไปนั่นเอง การดูดไขมันแบบนี้ผิวจะไม่เป็นคลื่น ช่วยลดรอยฟกช้ำได้อย่างดี แผลหายเร็วและสามารถดูดไขมันได้ในปริมาณมากๆ ผลการดูดไขมันจะเห็นได้ชัดเจนในระยะเวลา 1-2 วัน
  • แบบ Body Tite การดูดไขมันแบบนี้จะใช้วิธีการปล่อยคลื่นความถี่วิทยุ ออกมาไปช่วยสลายไขมันให้มีโมเลกุลที่เล็กจนสามารถหลุดออกมาได้ง่าย ไขมันที่ถูกดูดออกมาจะมีเลือดปนมาน้อย การดูดไขมันด้วยคลื่นจะสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นใต้ผิวหนังได้ ช่วยให้ผิวดูไขมันออกมานั้นกระชับและเรียบเนียน

เลเซอร์

เลเซอร์ในการใช้เข็มที่มีขนาดเล็กเป็นตัวนำพลังงานเลเซอร์ลงไปยังสลายไขมันใต้ผิวหนังไขมันละลายเป็นการลดจำนวนเซลล์ไขมันแบบถาวรและจะถูกขับออกด้วยการกระบวนการขับถ่ายทางธรรมชาติของร่างกาย ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องพักฟื้นสามารถทำกิจกรรมหรือทำงานได้ตามปกติ ไม่มีรอยแผลใดๆ การบวมซ้ำมีเพียงเล็กน้อย

เมโสเธอราพี (Mesotherapy)

เป็นวิธีการกำจัดไขมันส่วนเกินโดยการฉีดสารเพื่อเข้าไปขัดขวางการสะสมไขมัน ปรับปรุงระบบการไหลเวียนของเลือด ระบบต่อมน้ำเหลืองจึงเกิดการเผาผลาญไขมันส่วนเกินออกมาอย่างง่ายดาย ทำให้เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังแข็งแรงขึ้น  และยังทำหน้าที่สลายไขมันส่วนเกินออกมา  ไขมันที่จับตัวเป็นก้อนจะกลายเป็นไขมันเหลว ถูกขับออกมาทางปัสสาวะและทางอุจจาระ วิธีนี้จะรู้สึกตึงๆ เจ็บเล็กน้อยบริเวณที่ทำหลังจากนั้น 1-2 วันอาจจะพบอาการบวมช้ำ

อย่างไรก็ตามควรเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ และมีแพทย์ผู้ชำนาญ จะได้ปลอดภัยคะ

ข้อมูลอ้างอิง
คาร์บอกซีสวยทนได้: bangkokbiznews.com
ดูดไขมันทางเลือกสำหรับการกระชับส่วนอย่างได้ผล: honestdocs.co
COOLSCULPTING (ZELTIQ) สั่งเซลล์ไขมันทำลายตัวเองด้วยความเย็นเยือกแข็ง ลดสัดส่วน กำจัดไขมัน โดยไม่ต้องดู: apexprofoundbeauty.com

Previous article3 เหตุผลที่ว่า ทำไมเราถึงควรเลือกใช้บริการ Cloud Server ในไทย
Next articleวิธีเลือกรองเท้าวิ่ง เลือกซื้ออย่างไรให้เหมาะกับตนเอง