ช่วงหลายปีมานี้ เราคงจะเคยได้ยินเรื่องโรคภูมิแพ้ผิวหนังกันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเอง คนใกล้ตัวเป็น หรือว่าจากโฆษณาต่าง ๆ ทำให้หลายคนอยากรู้ว่า โรคภูมิแพ้ผิวหนังนี้เป็นโรคอย่างไร เหมือนภูมิแพ้หรือไม่ วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกัน
โรคภูมิแพ้ผิวหนังคืออะไร
โรคภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นโรคหนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ดังนั้น เราจะสังเกตเห็นได้ว่า หากว่าใครมีปัญหาหรือว่าเป็นโรคภูมิแพ้ทางระบบทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะเป็นอากาศ หรือหอบหืด ก็อาจจะมีโอกาสเป็นภูมิแพ้ผิวหนังด้วยเช่นกัน
อาการของโรคนี้ถูกกระตุ้นได้จากสิ่งเร้าที่ทำให้แพ้ เช่นเดียวกับภูมิแพ้ชนิดอื่น ๆ นั่นหมายความว่า อาการของโรคจะเกิดขึ้น และลุกลาม ในกรณีที่เจอสิ่งที่ทำให้เราแพ้ เป็นการตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่ไวกว่าคนทั่วไปนั่นเอง
สาเหตุและอาการ
สำหรับสาเหตุของโรคภูมิแพ้ผิวหนัง เชื่อว่าเกิดจากพันธุกรรม ที่ทำให้ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งเร้าไวกว่าคนทั่วไป นั่นหมายความว่า หากว่าพ่อแม่ของเราเป็นภูมิแพ้ผิวหนัง เราก็มีโอกาสเป็นด้วยเช่นเดียวกัน และลูกของเราก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ด้วย ซึ่งความรุนแรงของโรคก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ตามวัย หรือตามความเข้มข้นของสิ่งเร้าที่ได้รับ
โรคภูมิแพ้ผิวหนังนี้ ผู้ที่เป็นมักจะมีน้ำมันในผิวหนังกำพร้าที่น้อยกว่าปกติ ทำให้เมื่อเจอสิ่งเร้าจะมีอาการคัน เป็นขุย ซึ่งมักจะเกิดขึ้นบ่อยในช่วงเวลากลางคืน หากว่าเกาแรง ๆ อาจจะทำให้เป็นแผลและติดเชื้อได้
วิธีการรักษา
สำหรับการรักษาอาการโรคจะเป็นการรักษาตามอาการ ซึ่งโรคนี้สามารถแบ่งเป็นแบบเฉียบพลัน เรื้อรัง และรุนแรง บางรายหากว่าเป็นแล้ว สามารถซื้อยาทาเพื่อบรรเทาอาการได้ แต่บางคนไม่หายต้องพบแพทย์
อย่างไรก็ตาม หากต้องรับประทานยาสเตียรอยด์ แนะนำให้รับประทานตามแพทย์สั่งจะดีกว่า เพราะหากว่าซื้อยาเองอาจจะเสี่ยงต่อการดื้อยา และรักษาไม่ตรงกับอาการที่ต้องการ
วิธีป้องกัน
การป้องกันในที่นี้ หมายถึงการป้องกันไม่ให้มีอาการของโรคภูมิแพ้ผิวหนัง โดยให้ผู้ที่มีความเสี่ยง หรือเคยเป็นหลีกเลี่ยงสิ่งเร้าที่ก่อให้เกิดโรค อย่างที่ที่มีฝุ่น หรือแมลงชุกชุม นอกจากนี้ให้ใส่เสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย สามารถระบายอากาศได้ดี ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสูตรอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
นอกจากนี้ แนะนำให้รับประทานอาหารเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง บรรเทาอาหารแพ้อีกด้วย
สำหรับใครที่เป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนัง จะต้องระวังรักษาอาการ ไม่ให้ลุกลามจนอักเสบและติดเชื้อได้ และหากว่ามีอาการรุนแรง หรือเรื้อรัง ควรเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือคลินิก เพื่อความปลอดภัย และควรดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่ประโยชน์