ประวัติผู้ก่อตั้งสโมสร ลิเวอร์พูล ทีมฟุตบอลฝั่งยุโรปชื่อดังจากประเทศอังกฤษ

1486

คอฟุตบอลเมืองไทยคงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักทีมหงส์แดงหรอกนะคะ ทีมฟุตที่สร้างผลงานที่ไม่ทำให้แฟนคลับต้องผิดหวังและไม่ทำให้ผู้ชมการแข่งขันสามารถนั่งนิ่งได้เลยนะคะ คราวนี้เราจะนำประวัติของทีม ลิเวอร์พูล มาเล่าสู่กันฟังคะ เจาะกันให้ลึกกันเลยนะคะ

ลิเวอร์พูล

ผู้ก่อตั้งสโมสร ลิเวอร์พูล

จอห์น ฮูลดิ้ง ผู้ก่อตั้งสโมสร ลิเวอร์พูล และก่อตั้งสโมสรอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1892 สโมสรลิเวอร์พูล ไนเต็ด สามารถขึ้นเป็นทีมแนวหน้าของอังกฤษในเวลาอันสั้น ทีมลิเวอร์พูลได้เป็นแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศครั้งแรกในฤดูกาล 1900 และครองแชมป์ได้ในอีกหลายๆฤดูกาลต่อมา แต่อีกไม่นานก็กลับกลายเป็นช่วงตกต่ำจนต้องลงไปเล่นในดิวิชั่น 2

หลังจากนั้นทางสโมสรได้แต่งตั้ง บิลล์ แชงก์คลี่ย์ เป็นผู้จัดการทีมในปี ค.ศ. 1959 เขาได้ทำการปรับปรุงทีมด้วยการโละนักเตะออกถึง 24 คน และก่อตั้ง “บูท รูม สตาฟฟ์” ชุดแรกขึ้น นำทีมโดย โจ เฟเกน, รูเบ็น เบนเน็ตตี และ บ็อบ เพรียสลี่ย์ แชงก์คลี่ย์ได้คุมทีมจนได้เลื่อนชั้นในฤดูกาล 1961 จนได้เป็นแชมป์ลีกสูงสุดในประเทศอีกครั้งในฤดูกาล 1963 ซึ่งถือว่าเป็นแชมป์แรกหลังจากที่รอคอยมานานถึง 17 ปี หลังจากนั้นเขาก็นำทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1, แชมป์ยูฟ่าคัพ และแชมป์เอฟเอคัพ จนสุดท้ายแชงก์ลี่ย์ก็ของลาออกจากตำแหน่ง

ต่อมา บ็อบ เพลสี่ย์ ได้เข้ามาทำหน้าที่ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล และได้นำทีมได้แชมป์ยูโรเปี้ยนคัพเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พร้อมกับเป็นแชมป์ดิวิชั่น 1 แต่พลาดการเป็นแชมป์เอฟเอ คัพ จึงอดเป็นแชมป์ 3 รายการ ตลออเวลาที่ บ็อบ เพลสี่ย์คุมทีมทำให้ทีมลิเวอร์พูล สามารถคว้าแชมป์ได้ถึง 21 รายการ ทั้งรายการยูโรเปี้ยน คัพ, ยูฟ่า คัพ, ดิวิชั่น 1 และ ลีก คัพ ยกเว้นเพียงถ้วยเอฟเอ คัพ เขาได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งในปี ค.ศ. 1983

ในช่วงปี 2006-2007 เป็นยุคของการเปลี่ยนแปลงของสโมสรลิเวอร์พูล โดยการเข้ามาดำเนินการของนายทุนชาวอังกฤษอย่าง จอร์จ ยิลเล็ตต์ และ ทอม ฮิคส์ ด้วยราคา 9,850 ล้านบาท ในฤดูกาล 2009-2010 ทีมได้ฟอร์มตกเป็นอย่างมาก จนหมดสิทธิ์เข้าแข่งขันในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ยิ่งกว่านั้นไม่นานทางสโมสรกำลังเผชิญกับการล้มละลายจาการบริหารงานของนายทุนอังกฤษ ส่งผลให้ จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี เข้าของทีมบอสตัน เรด ซ็อกซ์ และ นิว อิงแลนด์ สปอร์ต เวนเจอร์ส เข้าเทคโอเวอร์กิจการ ผลงานของทีมก็ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ จนจบที่อันดับที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2011-2012 ซึ่งเป็นผลงานที่แย่ที่สุดในรอบ 18 ปี ของทีมเลยทีเดียว

สนามการแข่งขันของ ลิเวอร์พูล

สโมสรลิเวอร์พูล เปิดใช้งานสนาม แอนฟิลด์ ในปี ค.ศ. 1884 และได้มีการปรับปรุงจนสามารถจุผู้ชมได้ 45,276 ที่นั่ง โดยแบ่งอัฒจรรย์ออกเป็น 4 ฝั่ง ได้แก่ แอนฟิล์ โร้ด (จัดไว้สำหรับรองรับแฟนบอลทีมเยือน), เดอะ เซนเทรารี่ย์ สแตนด์, เดอะ ค็อป และ เมน สแตนด์ มีประตูทางเข้าสนามถึง 80 ประตู

สีและโลโก้สโมสรลิเวอร์พูล

โลโก้ของทีมลิเวอร์พูล ก็คือ นกไลเวอร์ โดยนำสัญลักษณ์มาจากตราทหารของเมืองลิเวอร์พูลและนำมาใช้ครั้งแรกในช่วยปลายศตวรรษที่ 20 โดยในช่วงแรกก็ยังใช้สีแดง-ขาว ในตัวโลโก้ จนล่าสุดได้เปลี่ยนเป็น นกไลเวอร์ สีเหลือง ยืนเหนือตัวอักษร “L.F.C” สีเหลืองเช่นกัน ในการฉลองครบรอบ 100 ปี ของสโมสรเอง

สำหรับเครื่องแต่งกายของทีมลิเวอร์พูล ในช่วงยุคแรกนั้นไม่ได้สวมชุดสีแดงเหมือนในปัจจุบันนะคะ แต่กลับเป็นสีน้ำเงิน และขาว แล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อสีแดง กางเกงสีขาว จนแชงค์ลี่ย์ได้เปลี่ยนให้ใส่เสื้อกางเกงสีแดงทั้งชุดเป็นครั้งแรกในการแข่งขันกับอันเดอร์เลชต์ แฟนฟุตบอลก็จะคุ้นตากับชุดนักเตะสีแดงจนถึงปัจจุบันของทีมลิเวอร์พูล

เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับประวัติของทีมลิเวอร์พูล กว่าจะได้โด่งดังมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็รู้จักกับการพ่ายแพ้มาเหมือนกัน แต่ก็สามารถกลับมาทวงแชมป์ได้ดังเดิมคะ

ข้อมูล ลิเวอร์พูล ที่น่าสนใจ
ประวัติศาสตร์ตราสโมสรลิเวอร์พูล : thailand.liverpoolfc.com
ประวัติสโมสรลิเวอร์พูลไนเต็ด: siamliverpool.com

 

Previous articleเรอัล มาดริด (Real Madrid) ราชันชุดขาว สุดยอดแชมป์ทีมดังจากสเปน
Next articleจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ (Leicester City) ทีมอังกฤษหัวใจไทย