เที่ยวบึงกาฬ สัมผัสบันไดสวรรค์ 7 ชั้น ณ ภูทอก

2039

จังหวัดบึงกาฬเป็นจังหวัดที่แยกตัวมาออกมาจากจังหวัดหนองคายเมื่อปี พ.ศ. 2554 คำขวัญประจำจังหวัดคือ “ภูทอกแหล่งพระธรรม ค่าล้ำยางพารา งามตาแก่งอาฮง บึงโขงหลงเพลินใจ น้ำตกใสเจ็ดสี ประเพณีแข่งเรือ เหนือสุดแดนอีสาน นมัสการหลวงพ่อใหญ่ ศูนย์รวมใจศาลสองนาง” ถึงจะเป็นจังหวัดที่มาใหม่ แต่ก็มีสถานที่ท่อง เที่ยวบึงกาฬ ที่น่าสนใจอยู่หลายแห่งนะคะ วันนี้จะพาเที่ยวสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของบึงกาฬกันคะ

คําขวัญประจําจังหวัดบึงกาฬ
ภูทอกแหล่งพระธรรม ค่าล้ำยางพารา งามตาแก่งอาฮง บึงโขงหลงเพลินใจ น้ำตกใสเจ็ดสี ประเพณีแข่งเรือ เหนือสุดแดนอีสาน นมัสการองค์พระใหญ่

เที่ยวบึงกาฬ

สถานที่ท่องเที่ยวบึงกาฬที่ใครมาแล้วต้องไป

ภูทอก ตั้งอยู่ที่วัดเจติยาคีรีวิหาร อำเภอศรีวิไล คำว่าภูทอกหมายถึงภูเขาที่โดดเดี่ยว ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของภูทอกนั้นเอง ภูทอกมี 2 ลูก คือภูทอกใหญ่ และภูทอกน้อย ปัจจุบันที่เปิดให้ผู้คนเข้าเยี่ยมชมก็จะเป็นภูทอกน้อย ส่วนภูทอกใหญ่ยังไม่เปิดให้เที่ยวชมคะ พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ได้ริเริ่มสร้างสะพานไม้และบันไดขึ้นไปชมทัศนียภาพรอบของภูทอก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพุทธรักษ์ คือการแสวงบุญหรือธรรมจาริก การขึ้นภูทอกนั้นมีทั้งหมด 7 ชั้น ใช้เวลาสร้างสะพานถึง 5 ปี ซึ่งแต่ละชั้นจะแตกต่างกันไป ดังนี้


ชั้นที่ 1 จะพบกับทัศนียภาพของต้นไม้นานพันธุ์

ชั้นที่ 2 จะเป็นบันไดไม้ยาวทอดรับกับชั้นที่ 1 ปกคลุมด้วยต้นไม้ ร่มรื่น

ชั้นที่ 3 เป็นบันไดเวียนรอบเขา มีลานโขดหิน มีสถาพป่ามืดครึ้ม

ชั้นที่ 4 เป็นสะพานลอยไต่เวียนรอบเขา มองลงไปด้านล่างจะเห็นเนินเขาเตี้ยๆสลับกันเรียกว่า ดงชมพู ระยะทางประมาณ 400 เมตร มีที่พักผ่อนเป็นระยะๆคะ และชั้นนี้ยังเป็นที่พักของแม่ชี

ชั้นที่ 5 เป็นชั้นที่สำคัญที่สุด มีศาลาและกุฏิพระ มีพระวิหารที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้มีลักษณะคล้ายพระธาตุอินทร์แขวน ที่ประเทศพม่า มีถ้ำจำนวนมากในชั้นนี้ ทั้งถ้ำเหล็กไหล ถ้ำฤาษี จากวิวของชั้นนี้สามารถมองไปเห็นภูทอกใหญ่ได้อย่างชัดเจนคะ

ชั้นที่ 6 เป็นชั้นสุดท้ายของบันไดเวียนรอบเขา สามารถเดินชมทัศนียภาพรอบๆได้ ถ้ามองทางด้านเหนือจะเห็นสะพานหินธรมมชาติที่ทอดสู่พุทธวิหาร ที่อยู่ชั้นที่ 5 เป็นอีกมุมที่อยากให้ได้มาเห็นกับตาตัวเอง มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คือปากเข้าเมืองพญานาคซึ่งอยู่หลังพระปางนาคปรก

ชั้นที่ 7 เป็นบันไดพาดขึ้นไปจากชั้นที่ 6 ชั้นนี้มีดาดฟ้ามีเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ จากคำบอกเล่าของนักท่องเที่ยวบางคนบอกว่าเห็นเทวดาอยู่ตามต้นไม้ ต้องมาดูเอาเองคะ

ก่อนที่จะเริ่มเดินขึ้นบันได อยากจะให้ลองแหง่นมองขึ้นไปข้างบนเสียก่อน คุณจะรู้สึกขนลุกกับความพยายามสร้างสะพานของชาวบ้าน มันน่าอัศจรรย์มาก และอาจจะทำให้คุณรู้สึกหวาดเสียวขึ้นมาก็ได้คะ และเมื่อมีโอกาสมาเยือนภูทอกก็ควรเดินให้ครบ 7 ชั้นนะคะ จะได้พบประสบการณ์ใหม่ที่ไม่มีไหนเหมือนคะ การเดินเลียบภูเขาในขณะที่อีกด้านหนึ่งมีเพียงราวบันไดทำจากไม้ขวางไว้เท่านั้นเอง ในแง่คิดของพระพุทธศาสนาก็สอนให้เรามีสติอยู่ตลอดเวลา รู้ตัวเสมอว่ากำลังก้าว กำลังหยุด ที่สำคัญควรแต่งกายสุภาพ กระโปรงสั้น กางเกงขาสั้น เสื้อแขนกุดไม่อนุญาตให้ขึ้นคะ ที่ภูทอกคุณจะได้พบกับไกด์สี่ขานำทาง แสนรู้มากๆคะ คุณสามารถเดินตามเจ้าหมาตัวนี้ขึ้นไปข้างบนได้เลย ด้วยความแสนรู้เมื่อขึ้นไปถึงชั้นที่ 5 เจ้าตูบจะแสดงอาการหิว แต่อย่าใจอ่อนให้อาหารเขา ให้ลงมาให้อาหารด้านล่างเท่านั้น น่ารักดีนะคะไกด์นำทางตัวนี้

การเดินทางมาภูทอกก็ไม่ยากคะ อยู่ห่างจากตัวเมืองบึงกาฬประมาณ 185 กิโลเมตร ให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 212 ผ่าน อ.โพธิ์ชัย อ.ปากคาด และ อ.เมือง แล้วเลี้ยวขวาเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 222 ผ่านบ้านนาสิงห์ สู่หมู่บ้านนาคำแคน อีกประมาณ 30 กิโลเมตรก็ถึงภูทอกแล้วคะ ยังมีที่เที่ยวอีกเยอะที่บึงกาฬ แล้วจะพาไปเที่ยวใหม่คราวหน้าคะ

ภูทอก จังหวัดบึงกาฬ

ข้อมุลท่องเที่ยวบึงกาฬ
ข้อมูลจังหวัดบึงกาฬ : thai.tourismthailand.org
0 สุดยอดที่เที่ยวฮอต จังหวัดบึงกาฬ : travel.sanook.com

 

Previous articleเที่ยวเชียงใหม่ แหล่งวัฒนธรรมและธรรมชาติที่น่าสัมผัส
Next articleเที่ยวพังงา ไม่ได้มีดีแค่ทะเล นะจะบอกให้