ทราย เทอร์เนอร์ อดีตการ์ดขวาของ ลอส แองเจลีส ชาร์จเจอร์ส และยังพ่วงรางวัล “ โปร โบว์ล ” ถึง 5 สมัย ในวัย 28 ปี ได้ออกมาพูดถึงการเริ่มต้นใหม่กับเฟรนไชน์ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส กับการเซ็นสัญญา 1 ปี หลังจากที่ ทราย เทอร์เนอร์ ล้มเหลวกับการร่วมทัพ แอลเอ ชาร์เจอร์ส ในซีซันที่ผ่านมาหลังจากที่ได้รับอาการบาดเจ็บ
การเซ็นสัญญา 1 ปี ของ ทราย เทอร์เนอร์ มีมูลค่าเพียงแค่ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 96 ล้านบาท) เท่านั้น สำหรับการเข้ามาในฐานะสมาชิกใหม่ของ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส หลังจากที่ ทราย เทอร์เนอร์ ถูกปล่อยตัวออกจากทีม นั่นจึงทำให้ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ตัดสินใจคว้า ทราย เทอร์เนอร์ อดีตการ์ดขวาของ แอลเอ ชาร์จเจอร์ส เข้ามาแทบจะทันที ทั้งที่เจ้าตัวได้รับอาการบาดเจ็บ
ทราย เทอร์เนอร์ เจ้าตัวเป็นอดีตดราฟท์รอบ 3 คลาส 2014 และนับตั้งแต่ปีแรกที่เข้าสู่ลีกอาชีพตลอดระยะเวลา 6 ปี เขาก็เล่นกับทัพ แคโรไลน่า แพนเธอร์ส และเจ้าตัวก็มีชื่อติด “ โปร โบว์ล ” ถึง 5 สมัย ในช่วงปี 2015 ถึง 2019 นั่นจึงทำให้ ทราย เทอร์เนอร์ สามารถสถาปนาฝีมือของตัวเองขึ้นมาในลีก เอ็นเอฟแอล ได้
และแน่นอนว่า หลังจากที่เจ้าตัวมีผลงานที่ยอดเยี่ยม แอลเอ ชาร์จเจอร์ส ก็ได้เทรดเข้ามาสู่แฟรนไชส์ของพวกเขา แต่ทว่านั่นเป็นซีซันที่ถือว่าย่ำแย่และเป็นฝันร้ายของ ทราย เทอร์เนอร์ หลังจากที่เจ้าตัวลงสนามช่วย แอลเอ ชาร์จเจอร์ส เพียงแค่ 9 เกมเท่านั้น เพราะได้รับอาการบาดเจ็บที่โคนขาหนีบ จนกระทั่ง พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ตัดสินใจเซ็นสัญญา ทราย เทอร์เนอร์ 1 ปี เข้ามาร่วมงานในซีซันที่กำลังจะเปิดนี้
และแน่นอนว่า ทราย เทอร์เนอร์ ได้ออกมาพูดถึงว่าระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปี ก็สามารถที่จะพิสูจน์ฝีมือว่า ตัวเขายังคงดีพอที่จะลงสนามในลีก เอ็นเอฟแอล ได้ในฐานะการ์ดที่มีฝีมือระดับพระกาฬได้เหมือนเดิมหรือไม่
