ประเภท และการเลือกใช้เครื่องดูดกลิ่นในครัว

854

ทำครัวให้มีความสุข ต้องมีเครื่องดูดกลิ่นในครัวที่ดูดกลิ่นได้หมดจด ไม่ทิ้งกลิ่นเหม็นในห้องครัว และโซนอื่น ๆ ในบ้าน 

เครื่องดูดกลิ่นในครัว

เครื่องดูดกลิ่นในครัวมีประเภทหลักๆ ดังนี้

  • เครื่องดูดกลิ่นแบบต่อท่อออกภายนอก (Exhaust hood) – เป็นเครื่องดูดกลิ่นที่มีท่อออกภายนอกบ้านเพื่อดูดกลิ่นออกไปนอกบ้าน คล้ายปล่องไฟ มีข้อดีคือดูดกลิ่นได้หมด แต่มีข้อเสียคือต้องมีท่อออกภายนอกและติดตั้งอย่างถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับบ้าน
  • เครื่องดูดกลิ่นแบบท่อระบายอากาศ (Ducted range hood) – เป็นเครื่องดูดกลิ่นที่ต้องมีท่อระบายอากาศเชื่อมต่อกับเครื่องดูดกลิ่นและออกไปนอกบ้าน มีข้อดีคือดูดกลิ่นได้หมดและมีการควบคุมความแรงของการดูดได้ เจาะผนังเล็กกว่าเครื่องดูดกลิ่นแบบต่อท่อออกภายนอก แต่ต้องติดตั้งเพื่อไม่เกิดความเสียหาย
  • เครื่องดูดกลิ่นแบบไม่มีท่อระบายอากาศ (Ductless range hood) – เป็นเครื่องดูดกลิ่นที่ไม่ต้องมีท่อระบายอากาศแต่ต้องจะมีฟิลเตอร์กรองอากาศอยู่ มีข้อดีคือไม่ต้องมีท่อระบายอากาศ ไม่ต้องเจาะผนัง แต่ประสิทธิภาพในการดูดกลิ่นจะน้อยกว่า

การเลือกเครื่องดูดกลิ่นในครัว

การเลือกเครื่องดูดกลิ่นในครัวขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของห้องครัว รูปแบบและการตกแต่งภายในครัว และการใช้งานประจำวัน ดังนั้น ในการเลือกเครื่องดูดกลิ่นในครัว ควรพิจารณาตามข้อดีและข้อเสียของแต่ละประเภท และเลือกเครื่องที่เหมาะสมกับความต้องการและความเหมาะสมกับห้องครัวของเรา

หากห้องครัวของเรามีขนาดใหญ่และมีที่ติดตั้งท่อออกภายนอกบ้าน และมีการใช้งานห้องครัวหนักเป็นประจำ ขอแนะนำให้เลือกเครื่องดูดกลิ่นแบบท่อออกภายนอก (Exhaust hood) เพราะสามารถดูดกลิ่นได้หมดและไม่ต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์อย่างสม่ำเสมอ แต่ต้องมีท่อระบายอากาศออกไปภายนอกและต้องติดตั้งอย่างถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับบ้านและอาคาร

ส่วนเครื่องดูดกลิ่นแบบไม่มีท่อระบายอากาศ (Ductless range hood) จะเหมาะสมกับห้องครัวที่มีพื้นที่จำกัดและไม่มีทางระบายอากาศได้ง่ายๆ เหมาะกับคอนโด ห้องเช่าต่าง ๆ เครื่องดูดกลิ่นแบบนี้สามารถติดตั้งได้ง่าย และไม่ต้องมีท่อระบายอากาศ แต่จะต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ดูดกลิ่นได้ตลอดเวลา และเครื่องดูดกลิ่นแบบนี้ไม่สามารถกำจัดควันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้ยังมีเครื่องดูดกลิ่นบางแบบที่มีความสามารถพิเศษ เช่น การปรับความเร็วการดูด และการควบคุมแสง LED ในการใช้งาน ซึ่งเครื่องดูดกลิ่นในครัวเหล่านี้จะมีราคาแพงกว่าเครื่องดูดกลิ่นแบบธรรมดา แต่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า ดังนั้น เมื่อเลือกเครื่องดูดกลิ่นในครัวว ควรพิจารณาตามลักษณะการใช้งานของเรา และเลือกเครื่องที่เหมาะสมกับความต้องการและพื้นที่ในห้องครัวของเรา

Previous articleแนะนำ 4 สมุนไพรพื้นบ้าน มีฤทธิ์เป็นยาทาแผลน้ำร้อนลวก
Next articleฟุตบอลหญิงไทย ชนะมองโกเลีย 6-0 ผ่านเข้ารองสอง โอลิกปิก 2024